นับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2024 เหรียญมีมชื่อดังหลายเหรียญเริ่มหมดแรง ในขณะที่ โทเค็น DeFi กลับพุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี GMCI Memecoin Index ซึ่งเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของเหรียญมีมตามมูลค่าตลาด แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของเหรียญมีมส่วนใหญ่ในลักษณะ sideway ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงภาวะตลาดที่เริ่มอิ่มตัวและอาจกำลังเผชิญกับแรงกดดันใหม่จากนักลงทุนที่เริ่มมองหาโอกาสในตลาด DeFi ที่กำลังมาแรง
ปัจจุบันดัชนี GMCI Memecoin Index อยู่ที่ระดับ 508.5 จุด และยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 500 จุด นับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน สะท้อนถึงแรงผลักดันที่เริ่มลดลง หลังจากเหรียญมีมทำกำไรได้อย่างมหาศาลในช่วงต้นเดือน
สิ่งที่น่าจับตามองคือ ช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน ดัชนีดังกล่าวได้พุ่งทะยานจาก 274.5 จุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ไปแตะจุดสูงสุดที่ 523.5 จุด ในวันที่ 15 พฤศจิกายน แสดงถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดก่อนเข้าสู่ภาวะชะลอตัวในช่วงปลายเดือน
Min Jung นักวิเคราะห์จาก Presto Research กล่าวว่า “ตลาดเหรียญมีมดูเหมือนจะร้อนแรงเกินไป โดยราคาของเหรียญถูกขับเคลื่อนด้วยการลิสต์ในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่นักลงทุนจะเริ่มอ่อนล้าจากความขัดแย้งต่างๆ เช่นกรณี Pump.fun”
Pump.fun ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปิดตัวเหรียญมีมรายใหญ่บนบล็อกเชน Solana เพิ่งระงับฟีเจอร์ถ่ายทอดสด (Live Streaming) หลังจากมีรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นอันตรายร้ายแรง เช่น การข่มขู่ทำร้ายตัวเอง การล่วงละเมิดผู้เยาว์ และการทารุณกรรมสัตว์
“ด้วยเหตุนี้ เหรียญมีมจำนวนมากจึงเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับ AI และตลาดอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนหันมาสนใจเหรียญ Altcoin ขนาดเล็กกันมากขึ้น เพื่อมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในเหรียญมีมขนาดใหญ่”Jung กล่าวเสริม
DeFi กลับมาแล้ว!
ดัชนี GMDeFi ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเหรียญกลุ่ม DeFi ชั้นนำ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างน่าทึ่งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีพุ่งขึ้นแตะระดับ 111.43 ณ เวลาที่รายงาน เพิ่มขึ้นถึง 35% จากระดับ 82.47 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สะท้อนถึงกระแสตอบรับที่ร้อนแรงในตลาด DeFi ซึ่งกำลังกลับมาเป็นจุดสนใจของนักลงทุนคริปโต

Arthur Cheong ผู้ก่อตั้ง Defiance Capital บริษัทลงทุนสินทรัพย์ คริปโต กล่าวว่า “เราเห็นการเคลื่อนย้ายเงินกลับไปยัง Ethereum และโปรเจกต์ DeFi ที่ถูกปรับใช้บนเครือข่าย EVM เช่น AAVE, ENA และ ENS”
Cheong เสนอว่าอาจมีสองสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน นักเทรดเหรียญมีมอาจกำลังเปลี่ยนเงินทุนไปยัง DeFi หรือการพุ่งสูงสุดของเหรียญมีมอาจใกล้สิ้นสุดด้วยเหตุผลของตัวเอง ในขณะที่เทรดเดอร์ค้นหาคุณค่าที่มากขึ้นในโทเค็นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง
Cheong ชี้ถึงสองความเป็นไปได้สำคัญในตลาดคริปโต ข้อที่หนึ่งคือ นักเทรดเหรียญมีมอาจกำลังย้ายเงินทุนของพวกเขาเข้าสู่ DeFi ที่มีศักยภาพการเติบโตระยะยาวมากกว่า หรือข้อที่สองคือ กระแสการพุ่งทะยานของเหรียญมีมอาจกำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของวัฎจักรแล้ว
ความรู้สึกเชิงบวกเกี่ยวกับ DeFi ได้รับแรงหนุน นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจุดประกายความหวังว่า นโยบายที่สนับสนุนคริปโตอาจปูทางสำหรับอนาคตแบบกระจายอำนาจในระบบการเงินหลัก
Min Jung นักวิเคราะห์จาก Presto Research อธิบายว่า แนวโน้มตลาดในปัจจุบันกำลัง “ย้อนกลับ” ไปสู่เรื่องปัจจัยพื้นฐาน โดยนักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญกับโปรเจกต์ที่มีการธุรกิจที่ดำเนินการจริงๆ มากกว่ากระแสจากเหรียญมีม
นอกจากนี้ Jung ยังกล่าวเสริมอีกว่า การลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้ กำลังช่วยหนุนแนวคิด ‘DeFi 2.0’ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาด DeFi มากขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันราคาของโทเคน DeFi ให้พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ที่มา:theblock