วันนี้ (16 ธ.ค.) ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นเกือบ 5% ภายในวันเดียว ทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือ 106,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจกลายเป็นทุนสำรองของสหรัฐฯ ในอนาคต
ข้อมูลจาก TradingView ระบุว่า Bitcoin แตะจุดสูงสุดที่ 106,554 ดอลลาร์ แต่ปรับตัวลงเล็กน้อยมาที่ 106,000 ดอลลาร์ ขณะที่สถิติสูงสุดก่อนหน้าอยู่ที่ 104,000 ดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม
CK Zheng ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ ZK Square กล่าวว่า Bitcoin อาจเข้าสู่โหมด “ซานตาคลอส” เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากกลัวการพลาดโอกาส (FOMO) และเริ่มจัดสรรเงินทุนมากขึ้นในสินทรัพย์ตัวนี้
CK Zheng คาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะอยู่ที่ 125,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2025 แต่เตือนว่าอาจมีการปรับฐานถึง 30% หลังจากนั้น เนื่องจากข่าวดีส่วนใหญ่จากรัฐบาล Trump ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศนั้น มีการ “ปรากฎให้เห็นในตลาดแล้ว”
ทั้งนี้ การปรับฐาน 30% จากระดับราคา 125,000 ดอลลาร์ จะทำให้ราคา Bitcoin ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 87,500 ดอลลาร์
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจาก Jack Mallers ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Strike กล่าวว่า Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจออกคำสั่งพิเศษ เพื่อกำหนดให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง วันที่ 20 มกราคม 2025
“มีความเป็นไปได้ที่จะใช้อำนาจคำสั่งพิเศษวันแรกเพื่อซื้อ Bitcoin” Mallers กล่าว พร้อมเสริมว่า “มันอาจไม่ใช่จำนวนมากถึง 1 ล้าน BTC แต่จะเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ”
ในขณะเดียวกัน Dennis Porter ซีอีโอของ Satoshi Action Fund เปิดเผยว่า กำลังมีการเตรียมร่างกฎหมายเกี่ยวกับจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin ฉบับที่สามในระดับรัฐ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า รัฐใดจะเดินตามรอย Texas และ Pennsylvania
“เรามี Pennsylvania และเรามี Texas และตอนนี้เรามีอีกรัฐหนึ่งที่กำลังจะเข้าร่วม และพวกเขาส่งร่างมาให้ผมแล้ว ดังนั้นผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง” Porter กล่าวใน X Spaces เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม
Porter คาดการณ์ว่า จะมีอย่างน้อย 10 รัฐที่ออกกฎหมายเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin ในสหรัฐฯ “มันจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เราจะเห็นร่างกฎหมายเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน้อย 10 ฉบับในความเห็นของผม”
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ทางการเงินยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งอาจช่วยดันราคาของ Bitcoin ให้สูงขึ้นอีกในเดือนต่อ ๆ ไป
ปัจจัยกระตุ้นอีกประการหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin อาจเป็นหนึ่งในกฎใหม่ของคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีการเงิน (FASB) ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถบันทึกมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมจริงมากขึ้น กฎนี้จะมีผลบังคับใช้กับปีงบประมาณที่เริ่มต้นหลังวันที่ 15 ธันวาคม
ปัจจุบันการวิเคราะห์ Market Sentiment ของ Bitcoin อยู่ในโซน “โลภขั้นสุด” ด้วยคะแนน 83 จาก 100 ตามดัชนี Crypto Fear and Greed Index
ที่มา:cointelegraph