เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ตลาด Bitcoin Exchange-Traded Funds (ETFs) ได้เผชิญกับแรงเทขายครั้งใหญ่ หลังกองทุนมีเงินไหลออกรวมสุทธิสูงถึง 671.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นการไหลออกในวันเดียวที่มากที่สุดในปีนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก Farside Investors กองทุนที่มีเงินไหลออกที่มากที่สุดคือ Grayscale’s GBTC โดยคิดเป็นมูลค่าเกือบ 208.6 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย ARK Invest’s ARKB ที่มีมูลค่าการไหลออกกว่า 108.4 ล้านดอลลาร์

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับราคา Bitcoin (BTC) ที่ลดลง โดยราคาเหรียญได้ร่วงลงไปอยู่ที่ประมาณ 96,409 ดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าการถูกล้างพอร์ต (liquidation) ในตลาดคริปโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ในขณะที่ข้อมูลจาก Sosovalue ชี้ว่า มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของ Bitcoin ETFs ลดลงมาอยู่ที่ 109.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลบกำไรที่เคยเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคมรวมกว่า 121.7 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 17 ธันวาคมไปเกือบหมด
และนอกจาก Bitcoin ETFs แล้ว กระแสครั้งนี้ยังส่งผลให้กองทุนใน Crypto ETFs มีเงินไหลออกรวมมูลค่ากว่า 732.4 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์มองว่าการลดลงของตลาดในครั้งนี้อาจเป็นเพียงช่วงสั้นๆ และอาจเกิดจากตลาดที่ “ไม่พร้อมรับข่าวร้าย” ซึ่งทำให้ราคาร่วงอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าฝ่ายบริหารของ Donald Trump ซึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง อาจมีนโยบายที่สนับสนุนคริปโต ทำให้ตลาดฟื้นตัวด้วยความเชื่อมั่นและความโลภกลับมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงส่งผลต่อตลาดอย่างมาก โดย Jerome Powell ประธาน Fed ให้มุมมองแบบสายเหยี่ยว (hawkish) ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงสองครั้งในปี 2025 ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนในตลาดและอาจกระทบตลาดคริปโต
ที่มา: Cointelegraph