ตลาดกำลังคลั่งไคล้กับกลยุทธ์ Bitcoin ของ Michael Saylor อีกครั้ง โดยบริษัทซอฟต์แวร์มหาชนของเขาประกาศเพิ่ม Bitcoin อีกกว่า 5,000 เหรียญ
วิสัยทัศน์ของ Saylor สำหรับปี 2045
ในการสนทนาทางวิดีโอกับ Austin นักวิเคราะห์ของ Altcoin Daily Michael Saylor อธิบายว่าทำไม Bitcoin ถึงอาจมีราคาสูงถึง 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญภายในปี 2045 โดยเน้นไปที่คุณสมบัติเฉพาะในฐานะ “สินทรัพย์ทางการเงินที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของโลก”
Bitcoin แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือหุ้น โดยมีอุปทานคงที่ที่ 21 ล้านเหรียญ ทำให้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและความเสี่ยงของตลาดที่มีประสิทธิภาพ
ความขาดแคลนคือกุญแจสำคัญ!
Saylor เน้นย้ำถึงความหายากของ Bitcoin ว่าเป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สินทรัพย์ดั้งเดิม แม้แต่สินทรัพย์ที่หายาก เช่น ทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ริมน้ำ ก็สามารถผลิตซ้ำหรือขยายได้ แต่อุปทานของ Bitcoin ถูกจำกัดไว้ตลอดกาล ความขาดแคลนอย่างแท้จริงนี้ทำให้มันมีมูลค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในฐานะแหล่งสะสมความมั่งคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่สกุลเงิน Fiat กำลังสูญเสียอำนาจซื้อ
ตัวอย่างเช่น ดอลลาร์สหรัฐสูญเสียมูลค่าไป 99.9% ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โดยสกุลเงินที่อ่อนแอกว่านั้นลดลงไปอีก
ทิ้งสิ่งอื่นไว้เบื้องหลัง
ประสิทธิภาพของ Bitcoin ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้นโดดเด่น มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 60% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตประจำปีของ S&P 500 ที่ 15% มาก Saylor เชื่อว่าแนวโน้มนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของความมั่งคั่งทั่วโลก ซึ่งประเมินไว้ที่ 500 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากสินทรัพย์ดั้งเดิม เช่น หุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ ไปสู่ Bitcoin
แม้ว่าราคาจะลดลงเป็นครั้งคราว แต่ Saylor มองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณของตลาดที่เติบโตเต็มที่ มากกว่าที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความไม่เสถียร
Saylor เปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นของ Bitcoin กับการไหลของน้ำลงเขาที่ไม่หยุดยั้ง เขาคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นจาก 55,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เป็น 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2045 ด้วยมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 280 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ Bitcoin อาจกลายเป็นรากฐานของความมั่งคั่งทั่วโลก ตามที่ Saylor กล่าว Bitcoin มีกำหนดที่จะให้ผลตอบแทนรายปี 29% ในช่วง 21 ปีข้างหน้า
Saylor ยังมองบวกต่อแผน Bitcoin Reserve ของ Trump และเสนอให้สหรัฐอเมริกาใช้ Digital Assets Framework กับ Bitcoin reserve โดยอ้างว่ามันสามารถสร้างรายได้มากถึง 81 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับกระทรวงการคลังของประเทศ ลดหนี้สาธารณะ และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที
ที่มา: coinpedia