Franklin Templeton ผู้ออกกองทุน Spot Bitcoin ETF ได้ออกมาคาดการณ์ว่าในปี 2025 จะมีหลายประเทศนำ Bitcoin มาใช้เป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์มากขึ้น โดยรายงานล่าสุดของบริษัทชี้ให้เห็นว่า Bitcoin จะยิ่งตอกย้ำสถานะของตนในฐานะสินทรัพย์ระดับโลกและเป็นที่เก็บรักษามูลค่าในรูปแบบดิจิทัล
Franklin Templeton เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะได้รับแรงหนุนจากการยอมรับในระดับสถาบันและระดับรัฐ แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดว่าประเทศใดจะเป็นผู้เริ่มต้นใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรอง แต่บริษัทเชื่อว่าปี 2025 เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากการเก็งกำไรไปสู่การใช้งานจริงของเทคโนโลยีพื้นฐานของคริปโตที่มีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลก
โดยหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Wu Jiexhuang สมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ที่เสนอให้เพิ่ม Bitcoin ในทุนสำรองแห่งชาติของฮ่องกงเพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงิน โดยชี้ไปยังประเทศเล็ก ๆ อย่างเอลซัลวาดอร์และภูฏานที่ได้เริ่มต้นแนวทางนี้แล้ว
นอกจากนี้ Jiexhuang ยังเน้นถึงผลกระทบจากการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ เมื่อต้นปี ซึ่งช่วยเพิ่มการยอมรับในระดับสถาบัน และยังได้กล่าวถึงแผนของ Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เสนอให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีผลกระทบสำคัญต่อทั้งตลาดแบบดั้งเดิม
ในขณะที่ฝั่งยุโรป พรรค Free Democratic Party (FDP) ของเยอรมนีก็มีมุมมองที่เปิดกว้างต่อการนำ Bitcoin มาใช้ในทุนสำรอง โดยในแผนการเลือกตั้งปี 2025 พรรคได้เสนอให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางเยอรมนี (Bundesbank) พิจารณาใช้ Bitcoin เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบการเงินยุโรป
ซึ่ง Christian Lindner อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนีและผู้นำ FDP วิจารณ์รัฐบาลเยอรมนีว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายที่สนับสนุนคริปโตและโอกาสที่ Bitcoin จะนำมา เขาเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น “ความล้มเหลว” ที่อาจทำให้เยอรมนีพลาดโอกาสสำคัญในเวทีเศรษฐกิจดิจิทัลโลก
ที่มา: Cointelegraph