หากคุณเป็นนักลงทุนในตลาดคริปโต หรือแม้แต่เป็นมือใหม่ที่กำลังหัดเทรด คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “Fibonacci” กันผ่านหูมาบ้าง แต่มันคืออะไรกันแน่? ทำไมนักลงทุนทั่วโลกถึงนิยมใช้มันเพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในตลาดที่เต็มไปด้วยความผันผวน?
วันนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Fibonacci ตัวเลขมหัศจรรย์ ที่ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวงการคณิตศาสตร์ แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในโลกการลงทุนอีกด้วย
Fibonacci คืออะไร ?
Fibonacci มีต้นกำเนิดมาจากแนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่มีต้นกำเนิดจากอินเดียโบราณ แต่ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกโดย Leonardo Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 13 เขาได้แนะนำแนวคิดนี้ในหนังสือชื่อ Liber Abaci ซึ่งในหนังสือนี้มีโจทย์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “การขยายพันธุ์ของกระต่าย” และจากโจทย์นี้เอง ทำให้เกิด ลำดับตัวเลข Fibonacci ถือกำเนิดขึ้นมา
ลำดับตัวเลข Fibonacci คืออะไร?
ลำดับ Fibonacci คือ ชุดตัวเลขที่เกิดจากการนำตัวเลข 2 ตัวก่อนหน้ามาบวกกัน เช่น
- 0 + 1 = 1
- 1 + 1 = 2
- 1 + 2 = 3
- 2 + 3 = 5
ผลลัพธ์ที่ได้ เรียงได้คือ ชุดตัวเลข : 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, … (และไปเรื่อยๆ)
นอกจากในคณิตศาสตร์ ตัวเลขเหล่านี้ยังสะท้อนความสมดุลในธรรมชาติ เช่น การจัดเรียงกลีบดอกไม้ การกระจายตัวของใบไม้บนกิ่ง และยังถูกนำไปพัฒนาเป็นสัดส่วนทองคำหรือ Golden Ratio ที่ถูกมองว่าเป็นมาตรฐานของความงามทั้งในธรรมชาติและศิลปะ ซึ่งมีค่าอยู่ที่ประมาณ 1.618 แบบไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
Fibonacci กับ “สัดส่วนทองคำ”
จากลำดับตัวเลขด้านบน หากคุณเอาตัวเลขในลำดับมาหารกัน เช่น:
- 21 ÷ 13 = 1.615
- 34 ÷ 21 = 1.619
- 55 ÷ 34 = 1.617
ผลลัพธ์เหล่านี้จะใกล้เคียงกับ 1.618 เสมอ ซึ่งเรียกว่า “สัดส่วนทองคำ” (Golden Ratio) ที่ถูกมองว่าเป็นมาตรฐานของความงาม ทั้งในธรรมชาติ ศิลปะ และสถาปัตยกรรม
Fibonacci กับการวิเคราะห์ราคาคริปโต
ถ้าพูดถึง Fibonacci ในตลาดคริปโต มันไม่ใช่แค่ตัวเลขมหัศจรรย์หรือสูตรคณิตศาสตร์ แต่ยังเป็น “ตัวช่วยลับ” ที่นักลงทุนใช้ดูพฤติกรรมของราคาในตลาดที่ผันผวนสุด ๆ แบบนี้
ระดับ Fibonacci เช่น 23.6%, 38.2%, 61.8% และ 78.6% มักกลายเป็นจุดที่นักลงทุนจับตามอง เช่น:
- ราคาหยุดพัก
- ย่อตัวลงมา
- หรือแม้แต่พุ่งขึ้นต่อ
ตัวอย่างง่ายๆ:
สมมติราคา Bitcoin เพิ่มจาก $20,000 ไปถึง $30,000 แล้วเริ่มร่วงลงมา เราสามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อดูว่าราคาจะหยุดตกและเด้งขึ้นที่จุดไหน เช่น:
- 23.6% ที่ $27,640
- 38.2% ที่ $26,180
- 50% ที่ $25,000
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? เพราะพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดมักตอบสนองกับระดับราคาที่ Fibonacci คาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
อย่าเพิ่งพึ่ง Fibonacci แบบเดี่ยว ๆ
ถึง Fibonacci จะเป็นตัวช่วยที่ดี แต่ในตลาดคริปโตที่ผันผวนระดับรถไฟเหาะ การใช้ Fibonacci อย่างเดียวอาจยังไม่พอ นักลงทุนควรใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น ๆ ไปด้วยเช่น:
- MACD: ดูแนวโน้มและโมเมนตัม
- RSI: เช็กว่าราคาอยู่ในโซนซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
- Moving Average: ช่วยดูแนวโน้มระยะสั้น-ยาว
ยิ่งไปกว่านั้นในการใช้ Fibonacci ยังมีข้อควรระวังอีกมาก เนื่องจากไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถทำนายตลาดคริปโตได้ 100% เสมอไป ฉะนั้นการใช้ Fibonacci ควรประกอบกับการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี เช่น การกำหนดจุดตัดขาดทุน และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนควบคู่กันไปด้วย