ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา บล็อกเชน Tron สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมรวม 1.36 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ โดยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของบล็อกเชน Layer 1 ทั้งหมด ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรากฏตัวในตลาดที่เพิ่มขึ้นของ Tron และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ภายในระบบนิเวศ ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการต่างๆ
ข้อมูลจาก TronScan แสดงให้เห็นว่าการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมในจำนวนมากนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการนำ dApps (แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ) และฟังก์ชัน Smart Contract ไปใช้เพิ่มขึ้นบนเครือข่าย Tron ผลกระทบด้านการซื้อขายของการพัฒนานี้มีหลายด้าน และอาจกล่าวได้ว่าทำให้ Tron อยู่ในอันดับต้นๆ ของภาค L1
รายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความสนใจอย่างต่อเนื่องในระบบนิเวศ Tron ดังนั้น โทเค็นดั้งเดิมของบล็อกเชน Tron อย่าง TRX จึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดเหรียญมีม นอกจากนี้ TRX ก็ประสบกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา
ปริมาณการซื้อขายของ TRX แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในบล็อกเชน Tron
ข้อมูลล่าสุดจาก TronScan แสดงให้เห็นว่าปริมาณการซื้อขายของ TRX เพิ่มขึ้นมากกว่า 9% เป็น 1.25 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 8 มกราคม 2568 การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเครือข่าย Tron ซึ่งน่าจะเกิดจากการเปิดตัว Sunpump ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเหรียญมีมผ่านระบบนิเวศ Tron
ข้อมูลจาก TokenTerminal เปิดเผยว่า ณ วันที่ 7 มกราคมปีนี้ Tron สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมมากกว่า 54 ล้านดอลลาร์ รายได้นี้ทำให้ Tron เป็นบล็อกเชน L1 ที่ทำกำไรได้มากที่สุด Tron มีผลงานเหนือกว่า Ethereum ซึ่งสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพียง 37 ล้านดอลลาร์
ตามข้อมูลของ TronScan รายได้รวมของโปรโตคอล Tron (TPR) ลดลง 1.05% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเหลือ 9.79 ล้านดอลลาร์ TPR เติบโตขึ้นเป็น 295.43 ล้านดอลลาร์ (+0.19%) ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา 792.36 ล้านดอลลาร์ (+36.67%) ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา และ 2.18 พันล้านดอลลาร์ (+117.26%) ในช่วงปีที่ผ่านมา บัญชีที่ใช้งานรายวันบน Tron เฉลี่ย 2.71 ล้านบัญชีในเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ธุรกรรมรายวันลดลง 7.6% เหลือเฉลี่ย 7.32 ล้านรายการในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
Tron เติบโตในส่วนของเหรียญมีม และ Stablecoin
ข้อมูลของ Coingecko ยืนยันว่าบล็อกเชน Tron ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเปิดตัวเว็บสร้างเหรียญมีม ของ SunPump การเปิดตัวเครื่องสร้างเหรียญมีม ของ SunPump เพิ่มรายได้ของ Tron ประมาณ 1.4 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่จำนวนที่อยู่ที่ใช้งาน 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.29 ล้าน
มีเหรียญมีมหลายร้อยเหรียญ นำโดย Sundog, Tron Bull และ Tron Bull โดยมีมูลค่าตลาด ~152 ล้านดอลลาร์
บล็อกเชน Tron ยังทำงานได้ดีในภาค Stablecoin เนื่องจากเครือข่ายจัดการธุรกรรม Stablecoin มูลค่ากว่า 1.08 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 6 มกราคม อุปทาน Stablecoin ของ Tron เพิ่มขึ้นเป็น 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 38% ของตลาด Stablecoin และทั้งหมดมีมูลค่ารวม 1.61 แสนล้านดอลลาร์ การเพิ่มขึ้นของตลาด Stablecoin ของ Tron จาก 4.66 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ทำให้เครือข่าย Tron ขึ้นแท่นอันดับสองรองจาก Ethereum โดยมูลค่าตลาด Stablecoin ของ Tron ปัจจุบันอยู่มีมูลค่ามากกว่า 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์
โดยจำนวนผู้ถือ Tether บนบล็อกเชน Tron เกิน 58.9 ล้านราย ในขณะที่จำนวนการโอนถึง มีจำนวนถึง 2.15 ล้านครั้ง ทั้งนี้ปริมาณ USDT มากกว่า 60% เกิดขึ้นบน Tron อย่างต่อเนื่อง เครือข่าย Tron ประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อในปี 2024 โดยประมวลผลการโอนมากกว่า 749 ล้านครั้ง โดยเฉลี่ย 2.05 ล้านการโอนต่อวัน
Stablecoin แบบกระจายอำนาจที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tron DAO อย่าง “USDD” ได้เปิดตัวเบต้าเวอร์ชัน 2.0 บนบล็อกเชน Tron นับตั้งแต่ได้รับการรับรองสถานะตามกฎหมายในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในเครือจักรภพโดมินิกาในเดือนตุลาคม 2022 ทำให้มูลค่าตลาดของ USDD Stablecoin เพิ่มขึ้นมากกว่า 747 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม Tron สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และระบบนิเวศเองก็พร้อมที่จะเติบโตไปกับความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่มากขึ้น ทั้งนี้ Tron จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อสามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ ในปี 2025
Tron จึงต้องรักษาการเติบโตนี้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการเกมและ DeFi ที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศเฉพาะตัวของ Tron ยังคงเป็นที่สนใจของทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งาน
ที่มา: cryptopolitan