เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกของสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และภรรยาของเขา เมลาเนีย ได้เปิดตัวเหรียญมีม ก่อนพิธีเข้ารับตำแหน่งที่หลายคนตั้งตารอ ทำให้ชุมชนคริปโตเกิดความวุ่นวายอย่างมาก
เหรียญมีมของทรัมป์เปิดตัวในคืนวันศุกร์และพุ่งขึ้นแตะมูลค่าตลาด 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งขึ้นสู่ตำแหน่ง 20 อันดับแรกของตลาด เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น เมลาเนียก็เปิดตัวเหรียญมีมคู่แข่งของเธอ โดย MELANIA มีราคาสูงกว่า 5 ดอลลาร์ พร้อมมูลค่าตลาดเต็มรูปแบบกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เหตุการณ์ที่ตามมาในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทำให้นักวิเคราะห์นึกถึงคำเตือนของ Gary Gensler อดีตประธาน SEC ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเสี่ยงในตลาดนี้
ดราม่าเหรียญมีมของทรัมป์
Eleanor Terrett ผู้สื่อข่าวของ Fox Business แสดงความคิดเห็นว่า สื่อโซเชียลเต็มไปด้วยโพสต์ที่กล่าวว่า “Gensler พูดถูก” หลังปล่อยเหรียญมีมของครอบครัวทรัมป์ มันส่งผลให้ตลาดคริปโตปั่นป่วน
บัญชีผู้ใช้นามแฝง “Db” ผู้ดำเนินการบริการข่าวคริปโต โพสต์ข้อความว่า “Gensler กำลังหัวเราะเยาะพวกเรา” ในขณะที่ Naiive ผู้ทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่งได้แนบมีม John Cena ที่ยิ้มแย้ม พร้อมระบุว่า Gensler คงเฝ้าดูการเปิดตัวเหรียญมีมของทรัมป์ด้วยความขบขัน
CEO ของ Cryptoquant อย่าง Ki Young Ju เน้นย้ำถึงท่าทีของ Gensler และกล่าวว่าทรัมป์ได้เปิดยุคของเหรียญมีมขึ้น โดยเขาอธิบายเหตุผลว่า นักลงทุนรายย่อยมักไล่ตามเหรียญมีมอย่าง $TRUMP เพราะอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียและชุมชน โดยสินทรัพย์ประเภทนี้มักมอบผลตอบแทนแบบเก็งกำไร แต่คุณค่าของมันขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของชุมชนและการกระทำของผู้ทรงอิทธิพลในวงการ
Nate Geraci ประธาน ETF Store กล่าวในโพสต์ว่า นักเทรดเหรียญมีมรู้ดีว่าพวกเขากำลังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรีในเวอร์ชันคริปโต เขาชี้ว่านักลงทุนไม่ควรมองโทเคนเหล่านี้ว่าเป็น “โครงการคริปโตที่แท้จริง”
The Kobeissi Letter โพสต์บน X ว่า “เพียง 48 ชั่วโมงหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์เปิดตัว $TRUMP มูลค่าตลาดกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ก็หายไปใน 10 นาที และการเปิดตัวโทเคนของเมลาเนียก็ทำให้ตลาดเกิดคำสั่งขายจำนวนมากใน $TRUMP ทันที”
Balaji Srinivasan อดีต CTO ของ Coinbase ชี้ว่าการเปิดตัวเหรียญ MELANIA หลังจากเปิดตัว $TRUMP เป็นเรื่อง “น่าทึ่ง” และบ่งบอกถึงการไม่มีความหายากในตลาด ซึ่งส่งผลให้มูลค่า $TRUMP ลดลงทันที
กฎที่เป็นมิตรต่อคริปโตอาจกำลังมาถึง?
Gary Gensler ในช่วงดำรงตำแหน่งเป็นประธาน SEC เคยต่อต้านตลาดคริปโตอย่างเปิดเผย และเชื่อว่ากฎหมายเดิมเพียงพอสำหรับการกำกับดูแล เขาเน้นย้ำถึงความเสี่ยงมหาศาลในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และมักใช้ Howey Test เพื่อตรวจสอบว่าสินทรัพย์เป็น “หลักทรัพย์” หรือไม่
สถานการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจาก Gensler ลาออก โดยมีการเปิดเผยว่าทรัมป์ถือครอง 80% ของอุปทาน $TRUMP ระหว่างตัวเขาและทีมของเขา ในขณะที่เมลาเนียเปิดตัวเหรียญของเธอโดยมี 88% ของอุปทานเป็นของเธอและทีม
เว็บไซต์ของ MELANIA ระบุว่ามีแผนการปล่อยเหรียญสู่ตลาดเร็วขึ้น โดยอ้างว่า 45% ของอุปทานถูกจัดสรรให้กับการกระจายชุมชนและเพิ่มสภาพคล่อง แต่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า 89% ของเหรียญ MELANIA ยังคงถูกล็อกไว้ในกระเป๋าเงินเดียว
ข้อเสนอเหล่านี้ทำให้นักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งคำถาม แต่ทรัมป์ได้ประกาศตัวเองแล้วว่าเป็น “Crypto President” ซึ่งตลาดคาดหวังว่าเขาจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงรณรงค์
การสะสมสำรอง Bitcoin และกฎที่เป็นมิตรต่อคริปโตเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหวัง ด้าน CEO ของ Fluence Labs “Tom Trowbridge” กล่าวว่า การแต่งตั้ง David Sacks เป็น “Crypto Czar” สะท้อนถึงจุดยืนที่สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน
ราคา Bitcoin กำลังทะยานขึ้นในช่วงขาขึ้น โดยเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา และสร้างจุดสูงสุดใหม่กว่า 109,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 Trowbridge กล่าวว่า การสำรองคริปโตของสหรัฐฯ อาจจุดประกายให้ประเทศอื่นๆ เริ่มสะสม Bitcoin และสินทรัพย์อื่นๆ เช่นกัน
ที่มา: cryptopolitan