<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Elizabeth Warren เรียกร้องสอบสวนเหรียญมีม $TRUMP หวั่นปัญหาด้านจริยธรรมและกฎหมาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตได้เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลการเงินของสหรัฐฯ และสำนักงานจริยธรรมรัฐบาลตรวจสอบเหรียญมีมอย่าง $TRUMP ของ Donald และ Melania Trump ซึ่ง Warren กังวลว่าเหรียญเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและอิทธิพลจากต่างชาติ

ในจดหมายเปิดล่าสุดของ Warren เธอได้ชี้ถึงแผนของครอบครัว Trump ที่เปิดตัวเหรียญมีมทั้งสองเพียงไม่กี่วันก่อนวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Trump โดยเธอระบุว่าโครงการเหล่านี้อาจทำให้ Trump และภรรยาได้รับผลประโยชน์ทางการเงิน พร้อมเปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงจากต่างประเทศ

Warren ยังเตือนถึงความเสี่ยงของเหรียญเหล่านี้ โดยอ้างว่าพวกมันอาจกลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ผันผวน และเปิดโอกาสให้คนทั่วโลกเก็งกำไรจากสถานะทางการเมืองของ Trump ซึ่งรวมถึงความกังวลว่าโครงสร้างแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) และความโปร่งใสที่ต่ำของคริปโตเคอร์เรนซีอาจทำให้ผู้นำจากชาติที่เป็นปฏิปักษ์ใช้ประโยชน์จากเหรียญเหล่านี้เพื่อมีอิทธิพลต่อรัฐบาลสหรัฐฯ

ซึ่ง Trump Organization และบริษัทในเครือถูกกล่าวหาว่าถือครองเหรียญ $TRUMP Coin ถึง 80% ทำให้นักลงทุนทั่วไปต้องรับผลกระทบจากความผันผวนของราคาอย่างหนัก 

โดยเหรียญ $TRUMP เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 มกราคม และเคยมีมูลค่าพุ่งสูงสุดถึง $73 พร้อมมูลค่าตลาดที่ $14.5 พันล้าน แต่ปัจจุบันราคาร่วงลงมาเหลือเพียง $32 หรือลดลงกว่า 57% ในขณะที่ $MELANIA Coin ที่เปิดตัวโดย Melania Trump ก็ประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ $13 ก่อนที่จะร่วงลงเหลือเพียง $2.60

นอกจากนี้ Warren ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เกิดจากบทบาทของ Trump ในการเลือกผู้นำองค์กรกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งอาจส่งผลต่อความเป็นกลางในการกำกับดูแล และได้ขอคำชี้แจงจากหน่วยงานกำกับดูแลภายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยประเด็นสำคัญที่ต้องการคำตอบ ได้แก่

  1. แนวปฏิบัติทางจริยธรรมสำหรับการถือครองเหรียญเหล่านี้
  2. มาตรการป้องกันการซื้อขายที่ผิดกฎหมายและการซื้อขายจากต่างชาติ
  3. คำจำกัดความและการควบคุมเหรียญมีม
  4. การคุ้มครองนักลงทุนทั่วไปจากความผันผวนของเหรียญ

ประเด็นนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับนโยบายคริปโตของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในด้านความโปร่งใส การคุ้มครองนักลงทุน และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งทั่วโลกกำลังจับตามองการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้

ที่มา: Ecoinimist