เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อแก้ไขปัญหาบริษัท Web3 ในภาคธนาคาร และสร้างความชัดเจนในกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
คำสั่งบริหารล่าสุดนี้ได้จัดตั้งกลุ่มทำงานด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมคริปโต พร้อมกับศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “คลังสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ”
สิ่งที่น่าสนใจคือ คำสั่งดังกล่าวได้แยกธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) และสำนักงานประกันเงินฝากสหรัฐฯ (FDIC) ออกจากกลุ่มทำงานด้านคริปโต ซึ่งถือเป็นการยุติความพยายามที่จะขัดขวางอุตสาหกรรมนี้ผ่านการจำกัดการให้บริการทางการเงิน
“Fed และ FDIC ถูกกันออกจากการกำหนดนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทั้งสององค์กรเคยพยายามทำลายอุตสาหกรรมนี้ผ่านการยกเลิกบัญชีธนาคาร โดยเฉพาะกับบริษัทของฉัน Custodia Bank” Caitlin Long ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Custodia Bank
โดยก่อนหน้านี้ ในยุครัฐบาล Biden มีความพยายามที่เรียกว่า “Operation Chokepoint 2.0” ซึ่งเป็นการจำกัดการให้บริการธนาคารแก่บริษัทคริปโต ส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและคริปโตมากกว่า 30 รายถูก “ปิดบัญชีธนาคารอย่างลับๆ” ตามคำกล่าวของ Marc Andreessen ผู้ร่วมก่อตั้ง Andreessen Horowitz
อย่างไรก็ตาม คำสั่งบริหารใหม่นี้ จะทำให้การออกกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin ในอนาคตอยู่นอกเหนืออำนาจของธนาคารกลาง โดย Long ระบุว่า Scott Bessent รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ จะมีบทบาทสำคัญในนโยบายดังกล่าว
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ การที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกกฎ Staff Accounting Bulletin 121 (SAB 121) ที่เคยกำหนดให้บริษัทที่ถือคริปโตแทนลูกค้าต้องบันทึกสินทรัพย์เหล่านี้เป็นหนี้สินในบัญชีการเงิน โดยออกกฎใหม่ SAB 122 ซึ่งช่วยให้ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น
ทำให้นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของ SEC ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Trump และรักษาการประธาน Mark Uyeda ที่แสดงให้เห็นถึงการเปิดรับต่ออุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น
ที่มา: Cointelegraph