<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ที่ปรึกษาสหรัฐฯ เผย! Trump จ่อดึง Stablecoin กลับประเทศ พร้อมเสริมแกร่งดอลลาร์เต็มกำลัง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

David Sacks ที่ปรึกษาด้านคริปโตของ Donald Trump ได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเตรียมการเพื่อควบคุมและนำการพัฒนา Stablecoin กลับมาอยู่ในสหรัฐฯ อีกครั้ง

โดย Sacks กล่าวในรายการ Closing Bell Over Time ของ CNBC เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ว่า Stablecoin เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของรัฐบาล Trump ควบคู่ไปกับการยอมรับ Bitcoin และการพัฒนา Blockchain 

ปัจจุบัน ตลาด Stablecoin มีมูลค่ากว่า 227,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกว่า 97% เป็นเหรียญที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ เช่น Tether ( USDT) ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดกว่า 60% ของตลาด Stablecoin ทั้งหมด

Sacks เชื่อว่า Stablecoin สามารถช่วยขยายอิทธิพลของดอลลาร์สหรัฐในระดับสากลและในโลกดิจิทัล พร้อมทั้งกระตุ้นความต้องการสำหรับ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอาจช่วยลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวและเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

คำแถลงนี้ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ Trump ที่ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่ยืนยันถึงการสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการพัฒนา Stablecoin ที่ถูกกฎหมายและมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม คำสั่งเดียวกันนี้ยังห้ามการออกและใช้งาน Central Bank Digital Currency (CBDC) โดยเน้นให้ Stablecoin ทำหน้าที่เป็นเงินดอลลาร์ดิจิทัลแทน

โดยปัจจุบัน Circle (USDC) ซึ่งเป็น Stablecoin อันดับสองรองจาก USDT มีการออกและควบคุมภายในสหรัฐฯ และได้รับการยอมรับทางกฎหมายในหลายประเทศ เช่น แคนาดา และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายแรกที่ปฏิบัติตามกฎ Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024

ในขณะที่ USDT ครองตลาด Stablecoin มากกว่าครึ่ง ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ อาจจับตามองเพื่อผลักดันให้เข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมในประเทศ Paolo Ardoino CEO ของ Tether เคยให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ในเดือนตุลาคม 2024 ว่า Tether เป็น “เพื่อนที่ดีที่สุด” ของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มากกว่าประเทศเยอรมนี และมากกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ในโลก

ทั้งนี้ รัฐบาล Trump อาจพยายามดึง Tether และผู้ให้บริการ Stablecoin รายอื่น ๆ เข้ามาสู่ระบบการเงินของสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างอำนาจของดอลลาร์ในเศรษฐกิจดิจิทัล และลดความเสี่ยงของ Stablecoin ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม

ที่มา: Cointelegraph