Trump Media (TMTG) กำลังเร่งพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนภายใต้แบรนด์ Truth.Fi ซึ่งรวมถึงกองทุน ETF และบัญชีการลงทุนแบบแยกจัดการ (SMA) ที่เน้น อุตสาหกรรมการผลิตในอเมริกา ความเป็นอิสระทางพลังงาน และ Bitcoin
บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq ซึ่งดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์มโซเชียล Truth Social และบริการสตรีมมิ่ง Truth+ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ 6 รายการ ได้แก่
- Truth.Fi Made in America ETF และ SMA
- Truth.Fi US Energy Independence ETF และ SMA
- Truth.Fi Bitcoin Plus ETF และ SMA
เดินเกมการเงิน หลังเปิดตัว Truth.Fi
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก Truth Media เปิดตัวแบรนด์ Truth.Fi เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเผยว่า มีแผนจัดสรรเงินสำรองสูงสุด 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในบริการทางการเงิน เช่น Bitcoin, ETF แบบเฉพาะทาง และสินทรัพย์คริปโตอื่น ๆ
Trump Media ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ Charles Schwab โบรกเกอร์ชั้นนำของสหรัฐฯ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ โดยจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์และที่ปรึกษาทางการเงิน
ชูทางเลือกใหม่ แทนที่ “กองทุนแนวตื่นรู้”
Devin Nunes ซีอีโอของ Trump Media และอดีตเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ระบุว่า เป้าหมายของ Truth.Fi คือการเป็นทางเลือกแทนกองทุนที่สนับสนุนแนวคิด “woke” และแก้ปัญหาการถูกปิดกั้นทางการเงิน (debanking) ที่แพร่หลายในตลาด
“เรากำลังสำรวจแนวทางใหม่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin” Nunes กล่าว
นอกจากนี้ Trump Media ได้ลงนามข้อตกลงด้านบริการและข้อตกลงด้านสิทธิการใช้แบรนด์กับ Yorkville Advisors ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่ได้รับการรับรอง (Registered Investment Advisor) สำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ โดยอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล โดย Yorkville จะเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และดำเนินการตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ
Mark Angelo ประธานของ Yorkville กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ TMTG ในการพัฒนาเครื่องมือการลงทุนภายใต้แนวคิด America First และภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรทางการเงินของ Truth.Fi”
รับมือปัญหาการถูกปิดกั้นทางการเงิน (Debanking)
Truth.Fi มีเป้าหมายในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เน้นการเติบโตของอเมริกา สนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิต พลังงาน และการลงทุนที่เสริมสร้างเศรษฐกิจของ “Patriot Economy” โดย Nunes ระบุว่า โครงการนี้เป็นส่วนขยายของ Truth Social ที่มุ่งปกป้องผู้รักชาติชาวอเมริกันจากการถูกยกเลิก (cancellation) การเซ็นเซอร์ (censorship) การปิดกั้นทางการเงิน (debanking) และการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) และองค์กรที่สนับสนุนแนวคิด “woke”
การเปิดตัว Truth.Fi มีขึ้นท่ามกลางข้อร้องเรียนจากฝ่ายรีพับลิกันที่อ้างว่าธนาคารปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มอนุรักษ์นิยม โดยประเด็นนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจาก Donald Trump กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอที่งาน World Economic Forum เมื่อวันที่ 21 มกราคม โดยกล่าวหาธนาคารรายใหญ่ เช่น Bank of America และ JPMorgan Chase ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานี้
คณะกรรมาธิการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย James Comer กำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่าธนาคาร “debanking” ลูกค้าบางรายเนื่องจากมุมมองทางการเมืองของพวกเขา
เมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เปิดการพิจารณาคดีเพื่อตรวจสอบว่า ธนาคารและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังปิดกั้นบริการทางการเงินต่อกลุ่มอุตสาหกรรมหรือกลุ่มการเมืองบางกลุ่มหรือไม่
นอกจากนี้ ปรากฏว่าการปิดกั้นทางการเงินยังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต โดยมีรายงานว่าภายใต้ปฏิบัติการที่เรียกว่า “Operation Choke Point 2.0” หน่วยงานรัฐบาลกลางอาจกดดันให้ธนาคาร ตัดสัมพันธ์กับบริษัทคริปโต
คณะอนุกรรมาธิการของวุฒิสภามีกำหนดจัดการพิจารณาคดีวันนี้เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่าหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางกดดันให้ธนาคารปิดกั้นบริการทางการเงินต่อบริษัทคริปโต โดยมี Paul Grewal หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Coinbase และ Fred Thiel ซีอีโอของ MARA เป็นพยานในการไต่สวนครั้งนี้
ที่มา: cryptobriefing