ดูเหมือนว่ากองทุน Bitcoin ETF แบบสปอตในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับกระแสเงินไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ข้อมูลจาก Sosovalue ระบุว่า กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีมูลค่าการไหลออกสุทธิรวมกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นับเป็นช่วงที่มีการขายออกมากที่สุดตั้งแต่กองทุนเหล่านี้เริ่มซื้อขายเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2024
โดยกระแสเงินไหลออกในช่วงนี้สูงกว่าช่วงสองสัปดาห์ก่อนวันที่ 21 มิถุนายน 2024 ซึ่งเคยมีการไหลออก 1.12 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 64,000 ดอลลาร์
“ETF ถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันที่มีต่อ Bitcoin” Marcin Kazmierczak ผู้ร่วมก่อตั้งและซีโอโอของ RedStone บริษัทด้าน Blockchain Oracle กล่าว
อย่างไรก็ตาม Kazmierczak มองว่าการดูแนวโน้มการลงทุนในระยะยาวจะให้ภาพที่ชัดเจนกว่า โดยกล่าวว่า
“เรากำลังดูข้อมูลในกรอบเวลาระยะสั้นเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งอาจไม่ได้สะท้อนภาพรวมทั้งหมด กองทุน ETF มักถูกใช้เป็นเครื่องมือการลงทุนระยะยาว ดังนั้นการวิเคราะห์กระแสเงินทุนในช่วงหกเดือนหรือหนึ่งปีจะให้ข้อมูลที่มีความหมายมากกว่า”
แม้ว่าการไหลออกของเงินลงทุนจากกองทุน Bitcoin ETF ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาจะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังยังคงเป็นความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าใหม่
ปัจจุบัน นักลงทุนยังคงจับตาการพบกันระหว่างประธานาธิบดี Donald Trump และประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อหาทางแก้ไขข้อพิพาททางการค้า แม้ว่า Trump จะระบุว่า Xi อาจเดินทางเยือนสหรัฐฯ และเป็นไปได้ที่จะมีข้อตกลงทางการค้าใหม่ แต่ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่แน่นอน
นอกจากปัจจัยด้านการค้า Kazmierczak ยังชี้ให้เห็นว่ามีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เช่น การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และแนวโน้มตลาดโดยรวม
เขาเสริมว่า กองทุน Sovereign Wealth Fund ของอาบูดาบีและกองทุนบำนาญของรัฐวิสคอนซิน ยังคงถือ Bitcoin ในสัดส่วนที่มากผ่าน ETF แม้จะมีแรงกดดันในการขาย
“นักลงทุนรายใหญ่ยังคงถือ Bitcoin ผ่าน ETF แม้จะมีการไหลออกในระยะสั้น”
ที่มา: Cointelegraph