อดีตหัวหน้าทนายความของ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) เชื่อว่าหน่วยงานนี้มีความเหมาะสมในการกำกับดูแลตลาดเหรียญมีม ท่ามกลางการถกเถียงของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ ว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสินทรัพย์ประเภทนี้
Elizabeth Davis หุ้นส่วนที่ Davis Wright Tremaine และอดีตหัวหน้าทนายความของ CFTC กล่าวว่า CFTC ควรเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลเหรียญมีม เนื่องจากหน่วยงานมีบทบาทในการปกป้องนักลงทุนรายย่อยจากการฉ้อโกงและการบิดเบือนตลาด ซึ่งกลุ่มนักลงทุนรายย่อยคือผู้ที่ใช้เหรียญมีมมากที่สุด
“ก่อนหน้านี้ Chris Giancarlo อดีตประธาน CFTC เคยตำหนิ Securities and Exchange Commission (SEC) ว่าเป็นต้นเหตุของความไร้ระเบียบในตลาดเหรียญมีม ขณะที่ Hester Peirce หัวหน้าทีมกำกับดูแลคริปโตของ SEC ออกมาระบุว่าเหรียญมีมไม่อยู่ในอำนาจการกำกับดูแลของหน่วยงาน”
Davis เชื่อว่า ความเป็นไปได้ที่ CFTC จะได้กำกับดูแลเหรียญมีมนั้นขึ้นอยู่กับทิศทางของกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมในสหรัฐฯ โดยระบุว่า “หาก CFTC ได้รับอำนาจกำกับดูแลตลาดคริปโตแบบ spot ซึ่งดูเหมือนจะมีแนวโน้มไปในทิศทางนั้น ก็มีโอกาสสูงที่เหรียญมีมจะถูกรวมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลด้วย”
นอกจากนี้ Davis ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาความไม่ชัดเจนทางกฎหมายเกี่ยวกับเหรียญมีม ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนและขาดแนวทางที่แน่นอน โดยระบุว่า “CFTC มีมุมมองที่กว้างขวางเกี่ยวกับคำนิยามของสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ภายใต้ Commodity Exchange Act และมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเหรียญมีม อาจเข้าข่ายสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในขอบเขตการกำกับดูแลของหน่วยงาน”
เหรียญมีมกลายเป็นประเด็นร้อนในต้นปี 2025 โดยเฉพาะหลังจากที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump เปิดตัวเหรียญมีมของตัวเอง รวมถึงกรณีอื้อฉาวของ Libra Token ซึ่งเชื่อมโยงกับประธานาธิบดีอาร์เจนตินา Javier Milei ซึ่งนำไปสู่เสียงเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาควบคุมตลาดนี้
ขณะเดียวกัน Zak Folkman ผู้ร่วมก่อตั้ง World Liberty Financial ซึ่งเป็นบริษัทคริปโตของครอบครัว Trump ได้ออกมาตำหนินักลงทุนที่ลงทุนในเหรียญมีมโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
“ผมไม่สามารถให้คำแนะนำทางการเงินได้ แต่การนำเงินเก็บทั้งชีวิตไปเสี่ยงกับเหรียญมีม ดูเป็นเรื่องที่โง่มากนะ”
และล่าสุด รายงานท้องถิ่นในอาร์เจนตินาระบุว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังสืบสวน Libra Token ที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี Milei ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันให้กฎระเบียบของเหรียญมีมถูกเร่งออกมาเร็วขึ้น
ที่มา: Cointelegraph