ดูเหมือนว่า Strategy (เดิม MicroStrategy) กำลังเจอศึกหนัก เพราะราคาหุ้นดิ่งไปแล้วกว่า 55% จากจุดสูงสุด ในขณะที่นักลงทุนเริ่มนับวันรอว่าบริษัทที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในโลกจะสามารถเอาตัวรอดจากสภาวะตลาดขาลงนี้ไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะบริษัทเมื่อมีหนี้สินอยู่กว่า 8.2 พันล้านดอลลาร์ และต้องบริหารคลัง 499,096 BTC ท่ามกลางราคา Bitcoin ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ในกรณี Worst Case หลายคนเริ่มกลัวว่า บริษัทอาจถูกบังคับให้ขาย Bitcoin หากสถานการณ์แย่ลงไปอีก ซึ่งตามรายงานของ The Kobeissi Letter มีสองปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Strategy ติดกับดักนี้จริง ๆ คือ (1) ราคา Bitcoin ร่วงลงเรื่อย ๆ แบบไม่มีแนวรับ และ (2) บริษัทไม่สามารถระดมทุนเพิ่มได้อีก ถ้าทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน Margin Call อาจถูกกระตุ้น และหากบริษัทไม่สามารถเติมเงินเพื่อรักษาสถานะได้ Forced Liquidation ก็จะตามมา
ปัจจุบัน ราคาต้นทุนซื้อเฉลี่ย Bitcoin ของ Strategy อยู่ที่ $66,350 ต่อ BTC หมายความว่าถ้าราคา Bitcoin ร่วงลดลงต่ำกว่าระดับตัวเลขดังกล่าว สิ่งนี้อาจจะเป็นแรงกดดันอย่างหนักให้กับบริษัทที่เก็บ Bitcoin มากเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าหนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในรูปแบบของ ตั๋วแปลงสภาพ (Convertible Notes) ซึ่งมีกำหนดชำระในปี 2027-2028 และราคาแปลงสภาพต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน ทำให้โอกาสเกิดวิกฤตสภาพคล่องในระยะสั้นของบริษัทดูจะไม่สูงนัก
ที่สำคัญ การโดน Forced Liquidation ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เพราะ เงื่อนไขของเจ้าหนี้กำหนดให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน เช่น การล้มละลายหรือการตัดสินใจจากผู้ถือหุ้นก่อน นั่นหมายความว่า แม้ราคาหุ้นจะร่วงแรงและตลาดจะผันผวน แต่บริษัทก็ยังมีอำนาจในการบริหารสินทรัพย์ของตัวเองอยู่
แต่สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวัฏจักรของ Bitcoin ถ้าราคากลับมาพุ่งขึ้น Strategy ก็รอด แต่ถ้าตลาดเข้าสู่ขาลงแบบลากยาวและบริษัทไม่สามารถดึงเงินทุนใหม่เข้ามาได้ สุดท้ายแล้ว พวกเขาอาจต้องจำใจขาย Bitcoin เพื่อล้างหนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาดูต่อไป
ที่มา : Cryptoslate