Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX และนักลงทุนคริปโตชื่อดัง ได้ออกมาคาดการณ์ว่าทิศทางของ Bitcoin (BTC) ในระยะสั้นอาจถูกกำหนดโดยสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนโยบายของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump
โดย Hayes โพสต์บนแพลตฟอร์ม X พร้อมระบุว่าหาก Trump ไม่สามารถผ่านงบประมาณที่เพิ่มการใช้จ่ายและปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ อาจเกิดแรงเทขายที่ทำให้ Bitcoin กลับไปสู่ระดับก่อนชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ที่ 75,000 – 70,000 ดอลลาร์
“ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องพัก หยุดรอ และจับตาดูสถานการณ์”
นอกจากนี้ Hayes ยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งถือครองกองทุน ETF ของ BlackRock อย่าง iShares Bitcoin Trust (IBIT) อาจเทขายออกหากราคาของ BTC ลดลงต่อเนื่อง
“Bitcoin กำลังมุ่งหน้าสู่ Goblin Town (ขาลงหนัก): นักลงทุนสถาบันจำนวนมากที่ถือ IBIT ใช้กลยุทธ์ Long ETF และ Short สัญญาฟิวเจอร์ส CME เพื่อสร้างผลตอบแทน หากอัตราผลตอบแทนนั้นลดลงพร้อมกับราคาของ BTC พวกเขาอาจเริ่มขาย IBIT และซื้อคืนฟิวเจอร์สของ CME”
เขาเสริมว่ากลุ่มนักลงทุนเหล่านี้ยังคงทำกำไรจากกลยุทธ์ดังกล่าว และอาจเลือกปิดสถานะในช่วงเวลาซื้อขายของสหรัฐฯ เพื่อนำกำไรเข้ากระเป๋า ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อราคาของ Bitcoin
“เป้าหมายของฉันคือ 70,000 ดอลลาร์ เจอกันแน่!”
และล่าสุด ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ออกมาประกาศว่าจีนจะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรเพิ่มเติม 10% โดยจะมีผลในวันที่ 4 มีนาคมนี้
— Cointelegraph (@Cointelegraph) February 27, 2025
BREAKING: Trump says tariffs set for March 4 will go into effect as scheduled, with China facing an additional 10% tariff. pic.twitter.com/WzYmj3dTLy
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: DailyHODL