Nvidia ยักษ์ใหญ่ด้านชิปยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาด AI ที่ถูกกระตุ้นจากการเปิดตัวของ DeepSeek บริษัท AI จากจีนเมื่อเดือนที่แล้ว และในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุด 27 ม.ค. 2025) Nvidia ทำยอดขายชิปทะลุ 39,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 74% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
หลังจากผลประกอบการสุดแกร่งของ Nvidia ถูกเผยแพร่ ส่งผลให้กลุ่มเหรียญคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI และ Big Data พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 17.12% นำโดย KAITO ทะยานขึ้นสูงสุดถึง 40.96% ขณะที่ CUDOS เพิ่มขึ้น 30.40% และ STORY (IP) ปรับตัวขึ้น 19.27% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
นอกจากนี้ เหรียญกลุ่ม AI Agent ก็มีการเคลื่อนไหวที่โดดเด่นเช่นกัน โดย AI16Z เพิ่มขึ้น 11.76% และ AIXBT พุ่งขึ้น 6.96% ในช่วงเวลาเดียวกัน นับเป็นการเคลื่อนไหวที่สวนทางกับตลาดคริปโตโดยรวมซึ่งยังคงมีความผันผวน
ความต้องการชิปของ Nvidia ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia มองว่าความต้องการชิปสำหรับ AI จะไม่ลดลงง่าย ๆ เพราะซอฟต์แวร์ในอนาคตกำลังเปลี่ยนไปใช้ Machine Learning มากขึ้น ซึ่งต้องการชิปที่มีโครงสร้างเฉพาะ ต่างจากการพัฒนาแบบเดิม เขายังเสริมว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI และ Nvidia ก็กำลังเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงนี้
ด้วยสถานะความเป็นผู้นำในตลาดชิปขั้นสูง Nvidia จึงเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการลงทุน AI จากบริษัทระดับโลกอย่าง Microsoft ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากราคาหุ้นของ Nvidia ที่พุ่งขึ้นกว่า 400% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และมูลค่าตลาดของบริษัทที่ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน Nvidia กำลังเร่งขยายการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า “Blackwell” ซึ่งจะช่วยกระตุ้นรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
Collette Kress ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Nvidia ระบุว่า ธุรกิจศูนย์ข้อมูล AI ของบริษัทมีความแข็งแกร่งที่สุดในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็กำลังขยายตัวในยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป ส่วนในจีนซึ่งถูกจำกัดการส่งออกชิปจากมาตรการของสหรัฐฯ ยังมีความต้องการต่ำ และคาดว่าการส่งออกจะอยู่ในระดับเดิมต่อไป
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า AI ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และ Nvidia ยังคงเป็นแกนหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของตลาดชิป AI หรืออิทธิพลที่ส่งต่อไปยังตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
- ที่มาข่าว:bbc
- ที่มาภาพ:donanimhaber