- บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุน คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
ตลาดคริปโตในปี 2025 กำลังเต็มไปด้วยความหวัง หลังจาก Bitcoin กลับมายืนเหนือ $90,000 ได้อีกครั้ง ท่ามกลางข่าวดีเรื่องการจัดตั้ง ‘กองทุนสำรองคริปโตแห่งชาติสหรัฐฯ’ โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ Bitcoin เท่านั้น แต่ยังรวมถึงหนึ่งใน Altcoin ชั้นนำอย่าง Solana ที่ถูกบรรจุเข้าไปในกองทุนสำรองนี้ด้วย
ข่าวนี้ส่งผลให้ SOL พุ่งขึ้นทันที โดยปัจจุบันมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $167 แม้จะมีแรงกดดันจากการปลดล็อกโทเค็น SOL จำนวน 11.2 ล้านเหรียญในเดือนมีนาคม แต่นักลงทุนกลับไม่หวั่นไหว และนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Kyle Chassé ซีอีโอของ Master Ventures ยังคงเชื่อมั่นว่า Solana มีศักยภาพแตะ $551 ได้ภายในปีนี้
Solaxy ($SOLX) โปรเจกต์ Layer-2 ตัวแรกของ Solana จุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจผลักดันราคา
Solaxy ($SOLX) ที่กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะเหรียญมีมตัวใหม่ที่มาแรงแห่งปี แถมยังเป็นโครงการ Layer-2 ตัวแรกบนเครือข่าย Solana ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ล่าสุด Solaxy สามารถระดมทุนทะลุ 23.5 ล้านดอลลาร์ ไปแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังให้ความเชื่อมั่นกับโปรเจกต์นี้อย่างจริงจัง
หากย้อนกลับไป ในช่วงแรก Solana เคยซื้อขายอยู่ที่ราคาต่ำสุดเพียง $0.50 แต่ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่ง ราคาปัจจุบันของมันได้พุ่งขึ้นถึง 28,129% ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าทึ่ง ในทำนองเดียวกัน Solaxy ($SOLX) ที่มีราคาช่วงเริ่มต้นอยู่ที่ $0.001646 ต่อเหรียญ ก็ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง ClayBro และ Borch Crypto ต่างมองว่าเหรียญนี้มีศักยภาพเติบโตได้อย่างมาก
Solana กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโปรเจกต์ เมื่อต้องเผชิญกับการปลดล็อกเหรียญ Solana จำนวน 11.2 ล้าน SOL คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ตามราคาปัจจุบัน ซึ่งถูกปล่อยเข้าสู่ตลาดในวันที่ 1 มีนาคม 2025 เหตุการณ์นี้เคยสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน เพราะไม่ใช่แค่จำนวนเหรียญที่เพิ่มขึ้นในระบบเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงว่า ใครเป็นผู้ถือเหรียญเหล่าอยู่นี้
ในบรรดาผู้ถือเหรียญล็อตใหญ่ครั้งนี้ มีบริษัท VC รายใหญ่อย่าง Galaxy Digital, Pantera Capital และ Figure ซึ่งต่างเข้าซื้อเหรียญเหล่านี้ ในช่วงการประมูลล้มละลายของ FTX ที่ราคาเฉลี่ยเพียง $64 ต่อเหรียญ หากพวกเขาตัดสินใจขายออกมาเพื่อทำกำไร อาจกวาดผลตอบแทนสูงถึง 783 ล้านดอลลาร์ จากราคาปัจจุบันของ SOL นั่นทำให้เกิดความกังวลว่า แรงขายจากบริษัทเหล่านี้อาจกดดันราคาลงอย่างหนัก
แต่ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายไปทั้งหมด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Wintermute บริษัท Market Maker คริปโตชั้นนำ ได้ถอน SOL มูลค่ากว่า 38.2 ล้านดอลลาร์ออกจาก Binance ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่านักลงทุนรายใหญ่บางรายกำลังถือเหรียญไว้แทนที่จะขายออกไปในทันที
แม้จะมีข้อกังวลเรื่องแรงขาย นักวิเคราะห์บางราย ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของ Solana อาทิ Kyle Chassé ซีอีโอของ Master Ventures ยังคงมองแนวโน้มของ Solana ในปี 2025 ในเชิงบวก โดยอ้างอิงรายงานของ Bitwise Asset Management ที่คาดการณ์ว่า SOL มีแนวโน้มขาขึ้นที่ $551 และในกรณีที่ตลาดไม่สดใส อาจลงไปต่ำสุดที่ $462 ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาปัจจุบันราว 228%
หาก Solana ต้องการสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งแม้จะมีแรงกดดันจากการปลดล็อกเหรียญ คำตอบอาจอยู่ที่ Solaxy ($SOLX) ซึ่งเป็น Layer-2 ตัวแรกของ Solana ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย และลดความแออัดที่เกิดขึ้น นี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดัน Solana ให้เดินหน้าต่อไป และอาจทำให้การคาดการณ์ราคาที่ 551 ดอลลาร์ กลายเป็นจริงในที่สุด
Solaxy โซลูชัน Layer-2 ตัวแรกของ Solana
Solaxy กำลังกลายเป็นโซลูชันที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเครือข่าย Solana ด้วยการเป็น Layer-2 ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของเครือข่าย หลายคนจึงตั้งคำถามว่า Solaxy จะสามารถเติบโตได้ถึง 4,155% ได้จริงหรือไม่
ปัจจุบัน Solaxy เป็นโซลูชันเดียวที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาระยะยาวให้กับ Solana โดยกลไกของมันช่วยลดภาระของเครือข่ายหลักผ่านการ ประมวลผลธุรกรรมนอกเครือข่าย และ รวมหลายธุรกรรมเข้าเป็นชุดเดียวก่อนส่งไปยัง Solana วิธีนี้ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้น ลดต้นทุน และช่วยให้ Solana แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Solaxy มีพัฒนาการที่สำคัญ ในการเปิดตัวโซลูชันการปรับขนาดสำหรับ Solana ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยลดปัญหาการหยุดให้บริการที่เกิดจากปริมาณธุรกรรมที่สูงจนเกินไป เมื่อเครือข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น นักลงทุนและผู้ใช้งานก็จะมั่นใจมากขึ้น และนี่อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Solana ได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในภาค DeFi ซึ่งปัจจุบัน Ethereum เป็นผู้นำตลาดอยู่
โมเดลของ Solaxy คล้ายกับการเติบโตของ Layer-2 บน Ethereum ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ ETH อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในปี 2023 เมื่อ Arbitrum, Optimism และโซลูชัน Layer-2 อื่นๆ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลให้ราคา Ethereum พุ่งขึ้นมากกว่าสองเท่า หาก Solaxy สามารถสร้างผลลัพธ์แบบเดียวกันให้กับ Solana ได้ โอกาสที่ SOL จะพุ่งแตะ $551 อาจไม่ใช่แค่ความเพ้อฝันอีกต่อไป
โซลูชัน Layer-2 ชั้นนำบน Ethereum หลายตัวสามารถก้าวขึ้นมามีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และ Solaxy ก็มีโอกาสที่จะเดินเส้นทางเดียวกัน จากเงินทุนที่ระดมมาได้ 23.5 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบันถือเป็น ช่วงเวลาสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าร่วมใน Solaxy นอกจากนี้ เว็บไซต์ของ Solaxy ยังรองรับกระเป๋าเงิน Best Wallet ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Multi-Chain ที่รองรับทั้ง Ethereum และจะเปิดให้ใช้งานบน Solana ในเร็วๆ นี้ โดยสามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play หรือ App Store
- ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Solaxy สามารถเข้าร่วมชุมชนบน X และ Telegram
- หากสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Solaxy อย่างเป็นทางการ
<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</strong>