Ripple Labs ผู้ออกและผู้ถือ XRP รายใหญ่ที่สุด ได้รักษาระบบการปล่อยโทเค็นเพิ่มเติมเข้าสู่การหมุนเวียนอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาหลายปี
แนวทางนี้ ซึ่งได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยระบบ escrow ในปี 2017 ทำให้มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงมีภาวะเงินเฟ้อเล็กน้อยตลอดการดำรงอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันแรกของแต่ละเดือน บริษัทจะปลดล็อก 1 พันล้าน XRP โดยทำให้ 20-30% (200-300 ล้านโทเค็น) พร้อมสำหรับการซื้อขายเพื่อระดมทุนเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินงาน ในขณะที่ล็อกส่วนที่เหลืออีกครั้ง
ในเดือนมีนาคม 2025 สัดส่วนอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เนื่องจาก Finbold รายงานว่า Ripple อาจเตรียมที่จะขายคริปโต มูลค่ามากถึง 795 ล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน อุปทานหมุนเวียนของ XRP ก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้น
มีโทเค็น 5.65 หมื่นล้านโทเค็นหมุนเวียนในช่วงต้นปี 2023 และ 5.86 หมื่นล้านโทเค็นในช่วงต้นปี 2024 ตามข้อมูลที่ Finbold ดึงข้อมูลโดยใช้ Wayback Machine ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการเพิ่มขึ้น 2 พันล้านต่อปี ณ เวลาที่เผยแพร่ข่าวในวันที่ 5 มีนาคม 2025 จำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6.28 หมื่นล้าน ซึ่งบ่งบอกถึงการเร่งการปลดล็อกเป็น 4 พันล้านต่อปี ตามข้อมูลที่ดึงมาจาก XRPscan
โดยรวมแล้ว จำนวน XRP ที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจาก 2 หมื่นล้านที่พร้อมใช้งานในตอนแรกในปี 2012 เกือบ 4.3 หมื่นล้าน และ 3.7 หมื่นล้านยังคงอยู่ใน escrow ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะคงที่ไปอีกหลายปี
ภาวะเงินเฟ้อของ XRP เป็นตัวขับเคลื่อนราคาหลักของโทเค็นหรือไม่?
การปลดล็อก XRP 200–300 ล้านต่อเดือน (~500–700 ล้านดอลลาร์ที่ 2.46 ดอลลาร์) อาจเพิ่มแรงกดดันในการขาย แต่ไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนราคาหลัก แต่การฟ้องร้องของ SEC ต่อ Ripple ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2020 เป็นตัวกดดันหลัก
โดยทั่วไปแล้วคริปโตค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก ดังที่เห็นได้จากทั้งการเพิ่มขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อีกครั้ง และการเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังในนโยบายของสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรม และการต่อสู้ที่ตามมา
แม้จะมีความหวังสำหรับรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่การขาดความคืบหน้าในการสร้างคลังสำรอง cryptocurrency เชิงกลยุทธ์ ทำให้ XRP ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นและจุดสูงสุดล่าสุดได้ และลดลง 15.48% นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ณ ราคาเผยแพร่ข่าวที่ 2.46 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนมีนาคม การเพิ่มขึ้นที่ทรงพลังเป็นไปได้ เนื่องจาก SEC ได้มีการยกเลิกคดีหลายคดี ทำให้นักเทรดจำนวนมากหวังว่าการต่อสู้กับ Ripple ใกล้จะสิ้นสุด ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ได้จุดประกายการสนทนาเกี่ยวกับคลังสำรองคริปโตเชิงกลยุทธ์อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม นำไปสู่การเพิ่มขึ้นระยะสั้นแต่ทรงพลัง
ที่มา: finbold