Mark Quant นักวิจัยคริปโตได้ออกมาชี้ว่า Monte Carlo simulation ซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ราคาของ Bitcoin ได้กำลังทำนายว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งขึ้นไปสูงถึง 713,000 ดอลลาร์ได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
โดย Monte Carlo model เป็นวิธีการคำนวณที่ใช้การสุ่มตัวอย่างเพื่อจำลองการเคลื่อนไหวของราคาและประเมินความเสี่ยง ซึ่งสามารถสร้างสถานการณ์ที่เป็นไปได้หลากหลายตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันผวนของตลาดและแนวโน้มราคา
จากราคาเริ่มต้นที่ 82,655 ดอลลาร์ การศึกษาคาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยของ Bitcoin อาจแตะ 258,445 ดอลลาร์ ภายในสิ้นเดือนกันยายน 2025 อย่างไรก็ตาม ในช่วงกว้างของการคำนวณ โมเดลชี้ว่าราคามีโอกาสลดลงไปถึง 51,430 ดอลลาร์ (เปอร์เซ็นไทล์ที่ 5) หรือพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 713,000 ดอลลาร์ (เปอร์เซ็นไทล์ที่ 95)
ทั้งนี้ โมเดล Monte Carlo อ้างอิงจาก Geometric Brownian Motion (GBM) ซึ่งสมมติว่าราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวแบบสุ่มโดยมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ค่าความผันผวนของ Bitcoin ถูกฝังอยู่ในโมเดลเพื่อสะท้อนพฤติกรรมในอดีตและแนวโน้มอนาคต ซึ่งหมายความว่าการคาดการณ์ยังคงเป็นเพียง “การทอยลูกเต๋า” ทางสถิติ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Quant ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างมูลค่าตลาดรวมของคริปโต (TOTAL market cap) กับดัชนีสภาพคล่องโลก โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมอาจแตะระดับสูงสุดใหม่ที่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025
ในขณะที่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ลดลง 6.38% ซึ่งส่งผลให้เกิดช่องว่างราคาในสัญญา CME Bitcoin Futures โดยช่องว่างดังกล่าวอยู่ระหว่าง 83,000 – 86,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ถึง 3,000 ดอลลาร์ ตามแนวโน้มในอดีต Bitcoin มักจะ “เติมเต็ม” ช่องว่างเหล่านี้ในกรอบเวลาระยะยาว โดยช่องว่างทั้ง 7 ครั้งที่ผ่านมาในช่วง 4 เดือนหลังถูกปิดไปทั้งหมด
Mark Cullen นักวิเคราะห์เทคนิค ระบุว่า ช่องว่าง CME ล่าสุดอาจนำไปสู่การบีบสถานะ Short (short squeeze) ก่อนที่ตลาดหุ้นสหรัฐจะเปิดทำการในวันที่ 10 มีนาคม อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า
“หาก Bitcoin หลุดระดับราคาเปิดสัปดาห์ที่ 80,000 ดอลลาร์ อาจมีช่องว่างขาลงไปสู่ระดับต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์”
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph