ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า Open Interest ของ Bitcoin ลดลงถึง 43% จากระดับสูงสุดตลอดกาล เหลือเพียง 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน สะท้อนถึงการชะลอตัวของกิจกรรมเก็งกำไรและการป้องกันความเสี่ยงในตลาด
Open Interest คือ จำนวนสัญญาอนุพันธ์ที่ยังค้างอยู่ในระบบ และการลดลงของตัวเลขนี้ มักสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุน หรือการลดการใช้เงินกู้ในตลาดอนุพันธ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพุ่งขึ้นแตะ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะ Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่
ในขณะเดียวกัน Bitcoin ก็กำลังพยายามฟื้นตัวจากแรงขายรอบล่าสุด หลังจากราคาทะลุระดับ 109,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม แต่กลับไม่สามารถยืนเหนือระดับ 90,000 ดอลลาร์ได้ในช่วงที่ผ่านมา
Bitcoin พยายามฟื้นตัวเหนือแนวต้านสำคัญที่ 90,000 ดอลลาร์
ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin เผชิญแรงต้านที่ระดับ 90,000 ดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าการพุ่งขึ้นรอบล่าสุดอาจใกล้จบลง หรือหากมีการเบรกทะลุอีกครั้ง ราคาก็อาจสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้
ข้อมูลจาก Glassnode ยังชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มสภาพคล่องในเครือข่ายลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอคติฝั่ง Long จากกลยุทธ์ arbitrage ระหว่างราคาสปอตกับฟิวเจอร์สก็เริ่มคลายตัวลง ส่งผลให้แรงซื้อในตลาดอ่อนแอลง
ขณะเดียวกัน กองทุน ETF ของ Bitcoin ก็เผชิญแรงขายและการไหลออกของเงินทุน ขณะที่สัญญา Bitcoin Futures บน CME บางส่วนใกล้จะหมดอายุ ทำให้เกิดแรงกดดันเพิ่มเติมต่อราคา
สัญญาณสภาพคล่องลดลงชัดเจนทั้งในเชิงพฤติกรรมและข้อมูลบนเครือข่าย
อีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงความซบเซา คือปริมาณของ “อุปทาน” หรือเหรียญ BTC ที่ถูกถือไว้ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ลดลงจาก 5.9% เหลือเพียง 2.8% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หรือร่วงลงกว่า 50% ซึ่งสะท้อนว่ามีการหมุนเวียนเหรียญใหม่ในตลาดน้อยลง
นอกจากนี้ ปริมาณเงินไหลเข้าจากกระดานเทรด Bitcoin ก็ลดลงจาก 58,600 BTC เหลือเพียง 26,900 BTC ต่อวัน หรือราว 54% แม้จะบ่งชี้ว่าแรงขายลดลง แต่ก็อาจสะท้อนถึงความต้องการซื้อที่ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักเทรดนำเหรียญเข้าสู่ตลาดน้อยลง
BTC เผชิญจุดทดสอบแนวรับสำคัญ
ราคาล่าสุดของ BTC อยู่ที่ประมาณ 84,000 ดอลลาร์ ซึ่งยังคงอยู่เหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 85,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อว่า “Unknown Trader” มองว่าแนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin ยังพอมีแรงส่งอยู่ หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้
อีกทั้ง Bitcoin ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ภาวะขาขึ้นในระยะยาว หากราคาสามารถดีดตัวขึ้นจากจุดนี้ได้ ก็อาจมีลุ้นไปทดสอบแนวต้านที่โซน 90,500 – 92,441 ดอลลาร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านไปได้ ก็มีแนวโน้มจะย่อตัวกลับมาทดสอบแนวรับเดิมอีกครั้ง
แรงสะสมจากสถาบันยังคงมีอยู่
นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant นามว่า Woominkyu ระบุว่าดัชนี Coinbase Premium Index แบบ EMA 30 วัน กำลังพยายามตัดขึ้นเหนือเส้น EMA 100 วัน ซึ่งในอดีตเคยเป็นสัญญาณล่วงหน้าของการพุ่งขึ้นของราคา BTC
หากเส้นค่าเฉลี่ยตัดกันจริง ก็อาจเป็นสัญญาณว่าผู้เล่นสถาบันเริ่มเข้าสะสม BTC อีกครั้ง ซึ่งอาจผลักดันให้ราคากลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น และยืดระยะเวลาของตลาดกระทิงออกไปอีก
Source: Cryptopolitan