ศาสตราจารย์ด้านการเงินได้เตือนถึงอันตรายของการนำเทคโนโลยีคริปโตมาใช้กับระบบของรัฐบาลสหรัฐฯ ตามที่ Hilary J. Allen ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายหลักทรัพย์และการธนาคารที่ American University ใน Washington D.C., กล่าวไว้ การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก่อให้เกิด “มหันตภัยอย่างแท้จริง”
ในแถลงการณ์ต่อวุฒิสมาชิกของรัฐเมื่อสัปดาห์นี้ Allen กล่าวว่าการผสานเทคโนโลยีดังกล่าวอาจทำให้ชาวอเมริกันที่ต้องพึ่งพาการชำระเงินของรัฐบาลกลางทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ เธอกล่าวเสริมด้วยว่าพวกเขายังอาจเสี่ยงเพิ่มเติ่มจากความเสี่ยงในการปฏิบัติงานหากรัฐบาล Trump อนุญาตให้ Elon Musk และทีมของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของเขาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวสำหรับการชำระเงินของรัฐบาลกลาง
Allen กล่าวต่อไปอีกว่า การใช้ บล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบ digital ledger แบบกระจายอำนาจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin เป็นวิธีการชำระเงินของรัฐบาล จะทำให้ธุรกรรมของทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะทำให้ผู้คนที่ต้องพึ่งพาการชำระเงินดังกล่าวอยู่ในสถานะที่เสี่ยงอันตราย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินต่อต้านระบบการชำระเงินผ่านบล็อกเชน
ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า การแทนที่ระบบปัจจุบันด้วยระบบบล็อกเชนถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ดี “การที่พนักงานของ DOGE สามารถเข้าถึงระบบซอฟต์แวร์ที่เคยส่งผลต่อการจ่ายเงินของรัฐบาลกลาง รวมถึงความทะเยอทะยานของ DOGE ที่จะแทนที่ระบบบล็อกเชนเข้ามาเป็นโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล อาจทำให้พลเมืองอเมริกันที่ต้องพึ่งพาการจ่ายเงินกับรัฐบาลทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์และอาจนำมาซึ่งข้อผิดพลาดที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อมากขึ้น” เธอกล่าว
Allen ได้มาให้การเป็นพยานต่อคณะกรรมการกำกับดูแลวุฒิสภา Michigan เมื่อวันที่ 19 มีนาคม โดยพรรค Democrats ใช้เดือนนี้ในการตรวจสอบผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของรัฐบาล Trump การประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 5 มีนาคมพุ่งเป้าไปที่การหยุดชะงักของการเดินเงินช่วยเหลือและการจ่ายโปะเงินกู้ของรัฐบาลกลาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อโปรเจกต์ต่าง ๆ หลายโปรเจกต์เช่น Head Start เป็นต้น
ที่มา : CryptoPolitan