<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
bitkub-2022-769x90

จับตา ! ทำเนียบขาวกำลังหาทางซื้อ Bitcoin เพิ่ม แนวทางที่เป็นไปได้คือ การใช้ทองคำสำรอง

bitkub-2022-768x90
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แหล่งข่าวระดับสูงจากทำเนียบขาว ได้เปิดเผยถึงแผนการที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีไปตลอดกาล นั่นคือความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะใช้ทองคำสำรองของประเทศเพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่ม

Bo Hines ผู้อำนวยการบริหารคณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งทำเนียบขาวเปิดเผยในบทสัมภาษณ์ล่าสุดว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณานำกำไรจากการถือครองทองคำมาใช้ซื้อ Bitcoin โดยไม่กระทบต่องบประมาณประเทศ 

แนวคิดนี้ สอดคล้องกับ “ร่างกฎหมาย Bitcoin ปี 2025” ที่เสนอโดยวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีเป้าหมายให้สหรัฐฯ สะสม Bitcoin จำนวนมหาศาลถึง 1 ล้าน BTC หรือประมาณ 5% ของอุปทานทั้งหมดภายในระยะเวลา 5 ปี

Bo Hines กล่าวว่า “นี่จะเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการเพิ่มปริมาณการถือครอง Bitcoin ของประเทศ โดยไม่สร้างภาระทางงบประมาณ” พร้อมย้ำว่า ทีมงานของประธานาธิบดี Donald Trump กำลังศึกษาวิธีการต่างๆ อย่างละเอียด และแนวทางที่ดีที่สุดจะถูกนำมาใช้จริง

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดี Donald Trump ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะผลักดันให้สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน Bitcoin และเป็นเมืองหลวงด้านคริปโตเคอร์เรนซีของโลก 

“ถึงเวลาแล้วที่ผู้นำของเราจะเริ่มสะสมสินทรัพย์ที่มีค่าสำหรับประชาชนชาวอเมริกัน แทนที่จะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป” Bo Hines กล่าวเสริม พร้อมชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของนโยบายรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลชุดก่อนๆ

แม้ว่าตลาดคริปโตในปัจจุบันจะยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค แต่การประกาศดังกล่าว ก็ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อรัฐบาลใหญ่ๆ หันมาสนใจสินทรัพย์ใด สินทรัพย์นั้นมักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหลายคนมองว่า นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในนโยบายการลงทุนของสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลในพอร์ตการลงทุนระดับชาติ หากแผนการนี้เป็นจริง นอกจากจะส่งผลให้ Bitcoin ได้รับการยอมรับในระดับรัฐบาลแล้ว ยังอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นในระยะยาวอีกด้วย

ที่มา:finance.yahoo

ข่าวต่อไป