แม้ว่าราคา Bitcoin จะร่วงจาก 87,241 ดอลลาร์ เหลือเพียง 81,331 ดอลลาร์ ระหว่างวันที่ 28 ถึง 31 มีนาคม ทำให้เกิดการล้างพอร์ตของนักเทรดสาย Long มูลค่ากว่า 230 ล้านดอลลาร์ แต่เบื้องหลังกราฟราคาที่่ผันผวนนี้ กลับมีสัญญาณเชิงบวก ที่บอกว่า ราคา Bitcoin ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงราคาถูกสำหรับนักลงทุนระยะยาว
ถึงแม้ราคา Bitcoin จะพยายามยืนเหนือระดับ 82,000 ดอลลาร์ แต่มี 4 ตัวชี้วัดที่บ่งบอกว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะยาวยังแข็งแกร่ง และ Bitcoin อาจกำลังเริ่มแยกตัวออกจากตลาดหุ้นแบบชัดเจนในอนาคต
หนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาดคือ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกของนักเทรด โดยเฉพาะหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศเพิ่มอีก 25% เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ส่งผลให้นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs และ Barclays พร้อมใจกัน ปรับลดเป้าดัชนี S&P 500 ลง จากระดับ 6,000 เหลือระดับ 5,000
ขณะที่ราคาทองคำกลับพุ่งทะลุ 3,100 ดอลลาร์ ซึ่งมักเป็นสัญญาณว่า เงินลงทุนกำลังไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง เข้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ก็อ่อนตัวลงจาก 107.60 ในเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ 104.10 ในสิ้นเดือนมีนาคม

ฟิวเจอร์สดัชนี S&P 500 (ซ้าย) เทียบกับ Bitcoin/USD (ขวา) ที่มา: TradingView
อย่างไรก็ตาม Bitcoin ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจาก 4 ปัจจัยหลัก เริ่มจากแฮชเรตของเครือข่ายที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 856.2 ล้าน TH/s ซึ่งแสดงว่า ไม่มีแรงขายจากฝั่งนักขุด เพราะตัวเลขการส่งเหรียญจากเหมืองเข้ากระดานแลกเปลี่ยน ยังต่ำกว่าปริมาณ BTC ที่ขุดได้ในแต่ละวัน

ประมาณการอัตราแฮชเฉลี่ย 7 วันของการขุด Bitcoin, TH/s แหล่งที่มา: Blockchain.com
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง MARA Holdings ยังเดินหน้าระดมทุนเพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์ ผ่านการขายหุ้น เพื่อสะสม Bitcoin เข้าพอร์ตการลงทุนของบริษัท เช่นเดียวกับ GameStop ที่ประกาศแผนการลงทุนใน BTC และ Stablecoin ด้วยวงเงินจากการเสนอขายหุ้นแปลงสภาพมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์
อีกหนึ่งสัญญาณเชิงบวกคือ ปริมาณ Bitcoin ที่เก็บอยู่ในกระดานเทรดทั่วโลก ลดต่ำสุดในรอบ 6 ปี เหลือเพียง 2.64 ล้าน BTC เมื่อวันที่ 30 มีนาคม แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรม การถือยาวของนักลงทุน มากกว่าที่จะเทรด
ในขณะที่ราคา Bitcoin ก็ร่วงลงต่อเนื่อง 5.1% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แต่กองทุน Spot Bitcoin ETF ยังไม่มีเงินลงทุนไหลออก ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่า นักลงทุนสถาบันยังมั่นใจใน Bitcoin ระยะยาว และไม่เทขายแม้ราคาจะร่วง
เมื่อรวมทุกปัจจัยเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แฮชเรตที่พุ่งสูงสุดตลอดกาล, การสะสม Bitcoin จากบริษัทใหญ่, การลดลงของปริมาณเหรียญบนกระดานเทรด และความมั่นใจจากนักลงทุนสถาบัน แสดงให้เห็นว่า ในสายตาของนักลงทุนระยะยาว ราคา Bitcoin ที่ระดับราคา 80,000 ดอลลาร์ อาจไม่ใช่จุดอ่อน แต่นี่อาจเป็นโอกาสในการสะสมที่ดีช่วงหนึ่ง
ที่มา : cointelegraph