ราคาหุ้น Coinbase เว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ได้ร่วงลงอย่างแรงกว่า 30% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จนแตะระดับเดียวกับช่วงหลังการล่มสลายของเว็บเทรด FTX เมื่อปลายปี 2022 โดยสาเหตุหลัก มาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลกระทบที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม
ไม่ใช่แค่หุ้น Coinbase เท่านั้นที่ร่วงหนัก แต่หุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอื่น ๆ อย่าง Galaxy Digital, Riot Platforms และ Core Scientific ก็โดนแรงเทขายหนักไม่แพ้กัน
กราฟรายวันแสดงให้เห็นว่า มูลค่าของ COIN มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด แหล่งที่มา: COIN บน TradingView.com
ส่วนตลาดคริปโตก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดย Bitcoin ราคาร่วงไปมากกว่า 20% จากจุดสูงสุด ขณะที่ Ethereum อาการหนักกว่า โดยราคาดิ่งลงมากกว่า 45% ท่ามกลางความกังวลจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเดินหน้า “สงครามการค้าระดับโลก” ทำให้นักลงทุนเริ่มสงสัยในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมายังซ้ำเติมบรรยากาศลงทุน ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 เข้าสู่ไตรมาสที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่กลางปี 2022 เป็นต้นมา
ยิ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เช่น Coinbase ก็ยิ่งร่วงแรง และผันผวนหนักกว่าเป็นเท่าตัว เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลในปัญหาการบริหารและความเสี่ยงด้านการล้มละลายของบริษัท ส่งผลให้เกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากช่วงต้นปีที่เต็มไปด้วยความหวัง หลังจากที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง และ Bitcoin พุ่งทะลุ 109,000 ดอลลาร์ ในวันสาบานตน แต่เมื่อมีการประกาศจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin แบบไม่ใช้งบภาษี ราคาก็ร่วงลงทันที และจนถึงตอนนี้ก็ยังฟื้นตัวไม่ได้
แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงซบเซา หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตส่วนใหญ่ถูกแรงเทขายจนแทบหมดแรง แต่หุ้นของ Strategy ซึ่งนำโดย Michael Saylor กลับยืนหยัดท่ามกลางพายุได้อย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่คริปโตยังคงเติบโตในแง่ของบทบาทบนเวทีการเมืองสหรัฐฯ และขยับเข้าใกล้ระบบการเงินดั้งเดิมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่มากพอจะจุดประกายให้ตลาดฟื้นกลับมาได้ Connor Loewen นักวิเคราะห์จาก 3iQ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา “มันบ้าคลั่งสุด ๆ” และนักลงทุนตอนนี้คงต้องมองหาแรงกระตุ้นใหม่ เพื่อจุดไฟให้ตลาดคริปโตกลับมาสดใสอีกครั้ง
ที่มา : newsbtc