วุฒิสมาชิก Ted Cruz ของสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า Facilitate Lower Atmospheric Released Emissions หรือ FLARE Act โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการนำก๊าซธรรมชาติที่ถูกเผาทิ้ง (Flared Gas) มาใช้ในกระบวนการขุด Bitcoin และกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูงอื่น ๆ ถือเป็นความพยายามล่าสุดในการผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับแนวทางพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยเสนอให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับบริษัทที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำก๊าซเหลือใช้มาใช้ใหม่ หากผ่านการพิจารณา สิ่งจูงใจเหล่านี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภาคการขุดคริปโตที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น
ก๊าซธรรมชาติที่ถูกเผาทิ้งตามไซต์ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ มักเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเปล่าประโยชน์ ร่างกฎหมาย FLARE Act จึงพยายามเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นพลังงานทางเลือก ซึ่งนอกจากจะช่วยลดมลพิษ ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำเหมือง Bitcoin ได้อีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนอย่าง Digital Power Network และ MARA Holdings ที่ผลักดันแนวทางการขุดที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากจะส่งเสริมด้านพลังงานสะอาดแล้ว FLARE Act ยังมีข้อกำหนดที่ห้ามไม่ให้ “ประเทศคู่ขัดแย้ง” อย่างจีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย เข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีในร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดอิทธิพลต่างชาติในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
โดย Senator Cruz เคยเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin อย่างแข็งขัน โดยก่อนหน้านี้ได้เสนอร่างกฎหมายห้ามไม่ให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency – CBDC)
ที่มา: Crypto-Economy