มีรายงานว่ากลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือสามารถทำกำไรได้มากกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขาย Bitcoin ในรูปแบบ Wrapped (WBTC) เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ธุรกรรมบล็อกเชน SpotOnChain ระบุว่าทางกลุ่มได้ทำการขาย WBTC จำนวน 40.78 เหรียญ แลกเป็น 1,857 ETH คิดเป็นมูลค่าราว 3.51 ล้านดอลลาร์ โดยเหรียญเหล่านี้เคยถูกซื้อไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ด้วยมูลค่าราว 1 ล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ยประมาณ 24,521 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
หากคำนวณจากราคาขายล่าสุด ซึ่งอยู่ที่ราว 86,170 ดอลลาร์ต่อ 1 WBTC จะพบว่ากลุ่ม Lazarus ทำกำไรไปมากกว่า 250% จากดีลนี้เพียงดีลเดียว
หลังจากขายเหรียญแล้ว กลุ่มได้ย้าย ETH ไปยังกระเป๋าเงินใหม่ 2 ใบ และอีกหนึ่งใบที่เคยมีประวัติเชื่อมโยงกับกลุ่มนี้มาก่อน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการครั้งใหม่
ชื่อเสียงที่สะสมจากการแฮกระดับโลก
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่ม Lazarus ได้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มแฮกเกอร์ที่น่ากลัวที่สุดในวงการ โดยเฉพาะการโจมตีบริษัทด้านการเงินและคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีรายงานว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังการโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
หนึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดคือการโจมตีแพลตฟอร์ม Bybit ซึ่งมีรายงานว่าพวกเขาขโมยคริปโตมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าทรัพย์สินเหล่านี้ถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และแผนการเลี่ยงการคว่ำบาตรของเกาหลีเหนือ
Lazarus ยังคงอาศัยเทคนิควิศวกรรมสังคมเป็นเครื่องมือหลักในการเจาะเข้าไปยังเป้าหมาย เช่น การแอบอ้างเป็นผู้สรรหาบุคลากรบน LinkedIn หรือปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีที่ทำงานจากระยะไกล
หน่วยไซเบอร์ที่มีวินัยและการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ
แหล่งข่าวบางแห่งระบุว่า เกาหลีเหนือมีบุคลากรด้านไซเบอร์มากกว่า 8,000 คน ซึ่งได้รับการฝึกฝนให้สามารถดำเนินการเจาะระบบระดับโลก โดยมีกลุ่ม Lazarus เป็นหนึ่งในหน่วยที่ได้รับการจัดตั้งและควบคุมอย่างมีวินัยคล้ายกองทัพดิจิทัล
ด้วยโครงสร้างที่แน่นหนาและเป้าหมายที่ชัดเจน กลุ่มนี้ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินโลกอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าเรื่องราวของพวกเขายังห่างไกลจากคำว่าสิ้นสุด
Source: Cryptoslate