Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ตลาดในตอนนี้ยังมีโอกาสร่วงลงไปอีก 20% โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมด 10% ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้จีนและสหภาพยุโรปเริ่มตอบโต้ทันที จนหลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า อาจเกิดสงครามการค้าแบบเต็มรูปแบบทั่วโลก
ในงาน Economic Club of New York เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Larry Fink ได้เปิดเผยว่า ซีอีโอจำนวนมากที่เขาได้พูดคุยด้วย เชื่อว่า สหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว โดย Larry Fink กล่าวว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่ที่ผมคุยด้วย บอกตรงกันว่า เราน่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยในตอนนี้
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ออกมาย้ำในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า ให้ชาวอเมริกัน “เข้มแข็ง…และอดทน” กับนโยบายขึ้นภาษี ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า จะเป็นชนวนให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในระดับโลก
ซึ่งดัชนีหุ้นใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 และ Nasdaq ราคาร่วงลงไปแล้วกว่า 10% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดคริปโตเองก็ได้รับแรงกระแทกเช่นเดียวกัน โดยมูลค่าตลาดรวมลดลงกว่า 7% ภายในสัปดาห์เดียว โดยราคา Bitcoin และ Ethereum ก็ร่วงลงไป 4% และ 13% ตามลำดับ ขณะที่เหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ อย่าง Solana และ XRP ราคาก็ร่วงไป 14% และ 7% ตามลำดับ
ตามรายงานของ Reuters ระบุว่า สถาบันการเงินใหญ่ ๆ ก็เริ่มลดการคาดการณ์เศรษฐกิจลง ซึ่ง Goldman Sachs ได้เพิ่มโอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจาก 35% เป็น 45% ขณะที่ JPMorgan ประเมินโอกาสไว้สูงถึง 60%
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะน่าเป็นห่วง แต่ Larry Fink ยังมองว่า ตอนนี้เป็นจังหวะที่น่าซื้อสะสมมากกว่าเทขายหนีออกจากตลาด โดยกล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ มากกว่าจะเป็นช่วงที่ควรเทขาย” พร้อมย้ำว่า แม้จะมีความผันผวนในตลาด แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นวิกฤติระบบ (systemic risk) ซึ่งนั่นก็ไม่ได้แปลว่า ตลาดจะไม่สามารถร่วงลงไปได้อีก 20% จากจุดนี้”
ที่มา : decrypt