Bitcoin (BTC) ได้สร้างความตกตะลึงให้กับนักลงทุนอีกครั้ง เมื่อราคาร่วงลงไปต่ำถึง $74,500 ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าสนใจ เพราะย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บุคคลผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโตอย่าง Michael Saylor ซีอีโอของ Strategy ได้ออกมาโพสต์อย่างหนักแน่นว่า “ถ้าจำเป็นให้ขายไตของคุณ แล้วเก็บ Bitcoin ไว้ ” ซึ่งในขณะนั้น BTC มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $79,900

Saylor เคยแนะนำให้ “จำนองบ้าน-ขายไต” แต่ Bitcoin ก็ยังร่วงยับ
เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ราคา BTC ร่วงลงต่ำกว่าราคาที่ Saylor เคยสนับสนุนให้ลงทุนอย่างไม่ยั้งคิด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 เขาเคยสนับสนุนให้นักลงทุนใช้ leverage เพื่อซื้อ BTC รวมถึงแนะนำให้เจ้าของบ้านจำนองบ้านเพื่อซื้อ Bitcoin โดยราคา ณ วันนั้น อยู่ที่ประมาณ $57,000 และสามเดือนต่อมาราคาก็ร่วงลง 37% ต่ำกว่า $36,000
ในช่วงที่เลวร้ายที่สุด ณ เดือนพฤศจิกายน 2565 ราคา BTC ร่วงลงต่ำกว่า $15,500 หรือต่ำกว่าราคาที่ Saylor แนะนำผู้ติดตามให้จำนองบ้านถึง 73%
จากสถานการณ์เหล่านี้ ทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ภายใต้การนำของ Michael Saylor มานานหลายปี บริษัท Strategy ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทเอกชนที่ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุด ได้ก่อหนี้สินมากเกินตัวหรือไม่ ปัจจุบันบริษัทมีหนี้คงค้างอยู่ถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์
สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ การเข้าซื้อ Bitcoin ครั้งล่าสุดส่วนใหญ่ของ Strategy นั้นอยู่ในภาวะขาดทุน แม้ว่าต้นทุนเฉลี่ยในการซื้อ Bitcoin ทั้งหมดของบริษัทตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ประมาณ 67,458 ดอลลาร์ก็ตาม
แม้ราคาของ Bitcoin จะร่วงต่ำกว่าจุดที่ Michael Saylor เคยแสดงออกว่า “ยอมขายไตดีกว่าขาย BTC” แต่ดูเหมือนความเชื่อมั่นของเขาต่อสินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะยังไม่สั่นคลอน โดยเฉพาะเมื่อ MicroStrategy ยังคงเดินหน้าทุ่มทุนซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่องผ่านหลากหลายวิธีระดมทุน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าศรัทธาต่อ Bitcoin ของ Saylor ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่มันคือกลยุทธ์ระยะยาวที่เขาพร้อมเดิมพันทุกอย่าง
ที่มา:Protos