ในไตรมาสแรกของปี 2025 บริษัทต่าง ๆ พากันสะสม Bitcoin เข้าพอร์ตการลงทุนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tether และ Metaplanet ที่เดินหน้าซื้อ BTC อย่างจริงจัง ท่ามกลางแนวโน้มการยอมรับ Bitcoin ในฐานะทรัพย์สินสำรองในระยะยาวขององค์กร
Juan Pellicer นักวิเคราะห์จาก IntoTheBlock มองว่า การนำ Bitcoin เข้ามาในงบดุลของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนมุมมองจาก การเก็งกำไร ไปสู่สินทรัพย์ที่มีมูลค่าจริง และถือครองได้ในระยะยาว
ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัท Tether เพิ่มการถือครอง Bitcoin กว่า 8,888 BTC จนทำให้ตอนนี้ถือครองอยู่มากกว่า 100,000 BTC
ส่วนบริษัท Metaplanet ก็สะสม Bitcoin เพิ่มจากเดิมที่มี Bitcoin อยู่จำนวน 1,762 BTC เมื่อปลายปี 2024 ไปเป็น 4,046 BTC ภายในไม่กี่เดือน
ในขณะที่บริษัท Strategy (ชื่อเดิม MicroStrategy) ของ Michael Saylor ก็ได้ซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในปีนี้ เพียงปีเดียว บริษัทซื้อ Bitcoin ไปแล้วกว่า 53,396 BTC เนื่องจากมองว่า Bitcoin คือ สินทรัพย์ที่เติบโตได้ในระยะยาว
บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน Fold Holdings ก็เพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของ Bitcoin อย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ โดยในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศว่า เพิ่งเข้าซื้อ Bitcoin จำนวน 475 BTC ส่งผลให้ยอดถือครอง Bitcoin ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 1,485 BTC แล้วในขณะนี้
นอกจากนี้ บริษัทนอกวงการคริปโตอย่าง GameStop ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายวิดีโอเกม ก็เริ่มขยับตัว แม้จะยังไม่ได้เข้าซื้อ Bitcoin จริง แต่มีการประกาศอัปเดตนโยบายการลงทุน ให้เพิ่ม Bitcoin เข้าเป็นสินทรัพย์สำรอง ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นทันที 12%
Gamestop is preparing to buy Bitcoin with up to $5 billion of cash sitting on their balance sheet.
— Anthony Pompliano
Let the games begin. $GME pic.twitter.com/sEBRYREAK3(@APompliano) March 26, 2025
ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ เริ่มหันมาสนใจ Bitcoin มากขึ้นคือ การเป็นสินทรัพย์ต้านเงินเฟ้อ โดยมีอุปทานจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ คล้ายกับทองคำในโลกดิจิทัล
ยิ่งไปกว่านั้น การที่คณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีการเงิน (FASB) ออกมาตรฐานบัญชีใหม่ ให้บริษัทสามารถ “บันทึกกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin ได้ทันที” โดยไม่ต้องรอขายจริง ยิ่งกลายเป็นแรงจูงใจสำคัญให้หลายองค์กรหันมาสนใจคริปโตมากขึ้น เพราะสามารถปรับตัวเลขผลประกอบการที่ดีขึ้นในงบการเงินได้ โดยไม่ต้องเทขายเหรียญออกมาแม้แต่เหรียญเดียว
Max Shannon จาก CoinShares อธิบายว่า ในบางกรณี ความผันผวนของ Bitcoin กลับกลายเป็นข้อได้เปรียบ ในบริษัทที่ต้องการเพิ่มปริมาณการซื้อขายในตลาดหรือสร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะในบริษัทที่มีปัญหาด้านผลประกอบการ หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูง เช่น GameStop ที่ยอดขายลดลง แต่ราคาหุ้นขึ้นหลังมีข่าวว่าสนใจ Bitcoin
ส่วนในกรณีของ Tether การจัดสรรกำไรสุทธิ 15% ทุกไตรมาสไปซื้อ Bitcoin ถือเป็นกลยุทธ์แบบ DCA ที่มั่นคง ด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง การถือ Bitcoin จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทมากนัก
แม้ว่าราคา Bitcoin จะยังผันผวน เนื่องจากความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเป็นปัจจัยถ่วง โดยเฉพาะนโยบายภาษีของทรัมป์ที่ประกาศในวัน Liberation Day ทำให้ตลาดคริปโตและหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก
ซึ่ง Emmanuel Cardozo จาก Brickken เชื่อว่า แนวโน้มการสะสม Bitcoin ของบริษัทจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Tether , Strategy และ Metaplanet ที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน
Emmanuel Cardozo ทิ้งท้ายว่า “นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Bitcoin ไม่ใช่แค่ทรัพย์สินเก็งกำไรอีกต่อไป แต่กลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินระดับองค์กรอย่างแท้จริง บริษัทอื่น ๆ กำลังเริ่มมองเห็นโอกาส และจะทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
ในภาพรวม การสะสม Bitcoin ของบริษัทในไตรมาสแรกถือว่าทำลายสถิติหลายด้าน แต่อนาคตยังไม่แน่นอน หากนโยบายการค้าโลกยังผันผวนแบบนี้ บริษัทหน้าใหม่อาจชะลอการเข้าสู่ตลาด แต่บริษัทที่เชื่อมั่นใน Bitcoin ก็อาจกำลังเก็บสะสมอย่างเงียบ ๆ เพื่อวางรากฐานในระยะยาวแล้วก็เป็นได้
ที่มา : beincrypto