ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan เผยรายงานล่าสุดว่า ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินไหลเข้าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในขณะที่ Bitcoin กลับเผชิญทิศทางตรงข้าม โดยนักลงทุนเริ่มเทขายทั้งในตลาดฟิวเจอร์สและ Bitcoin ETF ต่อเนื่องเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน
“แม้สภาพคล่องในตลาดและการกระจายความเสี่ยงจะลดลง แต่ทองคำยังคงได้ประโยชน์จากกระแสเงินไหลเข้าในแบบเดียวกับสกุลเงินปลอดภัยอย่างฟรังก์สวิสและเยน” ทีมวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou กล่าว
ข้อมูลจาก World Gold Council ระบุว่า กองทุนทองคำทั่วโลกมีเงินไหลเข้าสุทธิสูงถึง 21.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยเฉพาะ 2.3 พันล้านดอลลาร์มาจากกองทุนในจีนและฮ่องกง ซึ่งคิดเป็น 16% ของสินทรัพย์ทั้งหมดในภูมิภาคนั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 6% สะท้อนความต้องการที่เร่งตัวในเอเชีย
ในอีกด้านหนึ่ง ความสนใจใน Bitcoin กลับถดถอยลงชัดเจน ไม่ว่าจะในตลาดฟิวเจอร์สที่ลดการเก็งกำไรลง หรือในกองทุน ETF ที่ยังคงมีเงินไหลออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนว่าความเชื่อมั่นในบทบาทของ Bitcoin ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” กำลังถูกท้าทายอย่างหนัก
ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า Bitcoin ยังไม่สามารถรับประโยชน์จากกระแสเงินไหลเข้าที่สนับสนุนทองคำได้ พร้อมเสริมว่าทองคำยังคงเป็นผู้นำในยุคเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ขณะที่ Bitcoin ยังถูกจำกัดด้วยความผันผวนสูงและขาดการสนับสนุนจากสถาบัน
นอกจากนี้ JPMorgan ยังมองว่า ระดับราคาประมาณ 62,000 ดอลลาร์คือแนวรับสำคัญของ Bitcoin ซึ่งเป็นราคาต้นทุนโดยประมาณในการขุด หากราคาต่ำกว่าจุดนี้ อาจทำให้แรงขายจากฝั่งเหมืองยิ่งกดดันตลาดเพิ่มขึ้นอีกขั้น
ที่มา: TheBlock