HashKey Capital บริษัทจัดการกองทุนชื่อดังประกาศเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้ทำการเปิดตัวกองทุน “HashKey XRP Tracker Fund” ซึ่งถือเป็นกองทุนติดตามราคา XRP แห่งแรกของเอเชีย ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของ XRP
กองทุนนี้จะเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนมืออาชีพที่ต้องการลงทุนใน XRP โดยไม่ต้องเข้าไปจัดการซื้อขายและเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง กองทุนนี้ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเปิดโอกาสให้สามารถลงทุนได้ทั้งในรูปแบบเงินสด หรือนำ XRP ที่ถือครองอยู่มาลงทุนได้โดยตรง แถมยังมีความยืดหยุ่นในการซื้อหรือขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกเดือนอีกด้วย
Vivien Wong หุ้นส่วนฝ่าย Liquid Funds ของ HashKey Capital ได้กล่าวถึงความสำคัญของ XRP ว่า ” “XRP โดดเด่นในฐานะหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในตลาดปัจจุบัน ดึงดูดองค์กรระดับโลกที่ใช้ XRP ในการทำธุรกรรม สร้างโทเคน และเก็บรักษามูลค่า การมีกองทุน XRP Tracker Fund เป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ ทำให้เราสามารถเข้าถึง XRP ได้ง่ายขึ้น ตอบสนองความต้องการโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดีที่สุด”
HashKey Capital เองก็มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่มีการบริหารจัดการเชิงรุก หรือกองทุน Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งกองทุน HashKey XRP Tracker นี้ถือเป็นกองทุนประเภท Tracker Fund ลำดับที่สามของพวกเขา
Wong กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราจะขยายเครือข่ายของ HashKey Capital ไปยังสถาบันการเงิน หน่วยงานกำกับดูแล และนักลงทุนในเอเชียให้กับ Ripple ในขณะเดียวกัน Ripple ก็มอบโอกาสให้เราได้ร่วมมือกันในผลิตภัณฑ์และโซลูชันการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในด้านโซลูชันการชำระเงินข้ามพรมแดน การเงินแบบกระจายอำนาจ ( DeFi) และการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปใช้ในองค์กร
“นักลงทุนสถาบันทั่วโลกต่างต้องการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีการกำกับดูแล และกองทุน HashKey XRP Tracker Fund จะตอบโจทย์จุดนี้ได้ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ HashKey Capital ด้วยชื่อเสียงและความแข็งแกร่งในการดึงดูดตลาดคริปโทฯ ในภูมิภาคนี้ จะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมบทบาทผู้นำของเอเชียในเทคโนโลยีคริปโทฯ และบล็อกเชน”
สำหรับความน่าสนใจของเหรียญ XRP นั้น ปัจจุบันเหรียญนี้ ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก โดยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.21 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นวาระที่สองในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ในตลาดต่างคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการอนุมัติกองทุน XRP ETF ในสหรัฐอเมริกา โดย Standard Chartered คาดการณ์ว่า อาจเกิดขึ้นได้ภายในไตรมาสสามของปีนี้ ซึ่งอาจดึงดูดเงินทุนไหลเข้าได้มากถึง 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 12 เดือนแรก
ปัจจุบันมีบริษัทอย่างน้อย 7 แห่งที่กำลังแข่งขันกันเพื่อเปิดตัวกองทุน XRP ETF ในสหรัฐฯ โดยสำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) จะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการยื่นขอจัดตั้งกองทุน XRP ETF ของ Grayscale ภายในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาและความสนใจใน XRP ทั่วโลก
ที่มา:theblock