 ปี 2025 ฉบับจับมือทำ — มือใหม่ก็ทำตามได้ง่าย ๆ){kind=link}
ในช่วงที่ตลาดคริปโตผันผวนจนหลายคนไม่กล้าเทรดแรง ๆ เหมือนแต่ก่อน การแค่ “ถือเหรียญไว้เฉย ๆ” อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด โดยเฉพาะกับเหรียญใหญ่อย่าง Solana (SOL) ที่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ นั่นคือการ Stake เหรียญเพื่อให้มันสร้างผลตอบแทนได้แบบไม่ต้องขาย
ในปี 2025 นี้ การ Stake ยังคงเป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้ เพราะนอกจากจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ SOL เพิ่มแล้ว ยังได้มีส่วนช่วยดูแลความปลอดภัยของเครือข่ายไปพร้อมกันอีกด้วย แถมเครือข่าย Solana ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว แพลตฟอร์มแน่น แอป DeFi เพียบ
ระบบของ Solana ใช้กลไก Proof-of-Stake (PoS) ร่วมกับ Proof-of-History (PoH) ที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถล็อก SOL ผ่านกระเป๋าเงินวอลเล็ตที่น่าเชื่อ แล้วรับรางวัลแบบ Passive income เรียกง่าย ๆ ว่า “ให้เหรียญทำงานแทนเรา” ในขณะที่เรานั่งดู Netflix ก็ยังมีรายได้ไหลเข้ามาแบบชิล ๆ
การ Stake SOL คืออะไร?
ถ้าคุณถือเหรียญ Solana (SOL) แล้วอยากให้มัน “งอกเงย” แบบไม่ต้องเทรด การ Stake คือทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะมันคือการ นำเหรียญ SOL ไปล็อกไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อช่วยดูแลเครือข่าย และในทางกลับกันคุณก็จะได้ ผลตอบแทน ตอบแทนกลับมาด้วย
การ Stake เหรียญ SOL จะทำให้คุณได้รับ รางวัลเป็นเหรียญ SOL เพิ่มขึ้น โดยรางวัลที่ได้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวน SOL ที่คุณนำไป Stake, จำนวน SOL รวมทั้งหมดที่ถูก Stake บนเครือข่าย, อัตราเงินเฟ้อของ Solana (ซึ่งจะลดลงทุกปี) และระยะเวลาที่คุณล็อกเหรียญไว้ ยิ่ง Stake เยอะและนาน โอกาสได้รับรางวัลก็ยิ่งมากขึ้นตาม
นอกจากผลตอบแทนแล้ว การ Stake ยังเปิดโอกาสให้คุณ มีสิทธิ์โหวตข้อเสนอสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเครือข่าย Solana ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอัปเกรดระบบ หรือเปลี่ยนนโยบายบางอย่าง ซึ่งถือว่าเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการขับเคลื่อนเครือข่าย โดยระบบจะให้ความสำคัญกับผู้ที่ลงทุนมากขึ้น เพราะเชื่อว่าจะตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเครือข่ายโดยรวม
อีกหนึ่งประโยชน์สำคัญคือ การ Stake ยัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่าย Solana อีกด้วย เพราะยิ่งมีคนช่วยกัน Stake มากเท่าไหร่ เครือข่ายก็จะยิ่งกระจายอำนาจและยากต่อการโจมตีมากขึ้น ซึ่งรางวัลจากการ Stake จะถูกจ่ายออกทุก ๆ ประมาณ 2 วัน หรือที่เรียกกันว่า “Epoch”
ทำไมต้องเลือก Validator ?
พอคุณตัดสินใจจะ Stake เหรียญ SOL จริง ๆ แล้ว สิ่งที่คุณทำก็คือ มอบหมาย (Delegate) เหรียญของคุณให้กับ “Validator” หรือก็คือตัวแทนที่ช่วยดูแลเครือข่าย Solana นั่นเอง
Validator มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง เช่น ตรวจสอบธุรกรรม, สร้างบล็อกใหม่, และโหวตข้อเสนอต่าง ๆ ในระบบ ซึ่งแปลว่า…พวกเขาจะทำหน้าที่ “โหวตแทนคุณ” ด้วย เพราะฉะนั้นการ เลือก Validator ที่คุณไว้ใจ ก็สำคัญมาก ไม่ต่างจากการเลือกตั้งในโลกจริงเลย
น้ำหนักคะแนนโหวตของ Validator จะขึ้นอยู่กับว่า มีคนเอาเหรียญมา Stake กับเขามากแค่ไหน ยิ่งมีเยอะ คะแนนเสียงของเขาก็ยิ่งมีพลังมาก และคนที่เอาเหรียญไป Delegate แบบนี้ จะเรียกว่า “Delegator” ซึ่งก็คือคุณนั่นแหละ
หน้าที่ของคุณคือเลือก Validator ที่ดูน่าเชื่อถือ มีประวัติดี ทำงานโปร่งใส และมีเป้าหมายที่สอดคล้องกับทิศทางของ Solana เพื่อให้มั่นใจว่าเหรียญของคุณได้มีส่วนช่วยเครือข่ายอย่างแท้จริง
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้น Stake Solana สำหรับมือใหม่
ก่อนที่คุณจะเริ่ม Stake เหรียญ Solana (SOL) สิ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ การ Stake มีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ๆ ซึ่งแต่ละแบบจะส่งผลต่อความยืดหยุ่นในการใช้งานเหรียญของคุณแตกต่างกัน
แบบแรกคือ Liquid Staking เป็นวิธีที่ให้คุณได้ทั้งรางวัลจากการ Stake และยังสามารถใช้งานมูลค่าของเหรียญที่ Stake ไปแล้วได้อยู่ โดยเมื่อคุณทำ Liquid Stake ระบบจะให้โทเคนพิเศษกลับมาที่เรียกว่า Liquid Staking Tokens (LSTs) ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับจำนวน SOL ที่คุณ Stake ไป คุณสามารถนำ LSTs เหล่านี้ไปใช้งานต่อในโลก DeFi ได้ เช่น เอาไปเทรด ปล่อยกู้ หรือทำฟาร์มบนแอปต่าง ๆ บนเครือข่าย Solana ได้เหมือนกับว่ายังไม่ได้ Stake เหรียญเลย
ส่วนอีกแบบคือ Native Staking หรือการ Stake แบบดั้งเดิม วิธีนี้จะทำการล็อกเหรียญ SOL ของคุณไว้กับ Validator โดยตรง คุณจะได้รับรางวัลตามปกติและมีสิทธิ์โหวตในระบบ แต่จะไม่สามารถใช้งานเหรียญที่ Stake ไว้ได้ จนกว่าจะทำการ Unstake ซึ่งอาจต้องรอเป็นระยะเวลาหนึ่ง วิธีนี้เหมาะกับคนที่เน้นถือยาว ไม่สนใจใช้งานเหรียญใน DeFi มากนัก และต้องการระบบที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา
ความแตกต่างหลักระหว่างสองวิธีนี้ก็คือ “ความยืดหยุ่น” ซึ่ง Liquid Staking อาจเหมาะกับคนที่อยากใช้ประโยชน์จากเหรียญแม้จะ Stake ไปแล้ว ส่วน Native Staking แม้จะใช้งานง่ายกว่าแต่ก็แลกมากับข้อจำกัดในการเข้าถึงเหรียญที่คุณถืออยู่
มาเริ่ม Stake เหรียญ Solana กันเลย !
ตอนนี้เรามาดูขั้นตอนการ Stake เหรียญ Solana กัน
ขั้นตอนที่ 1: สร้างกระเป๋าเงิน Solana
ก่อนจะเริ่ม Stake SOL สิ่งแรกที่คุณต้องมีก็คือ กระเป๋าเงินดิจิทัล ( Wallet) ที่รองรับทั้งการเก็บเหรียญและฟีเจอร์การ Stake ซึ่งส่วนใหญ่กระเป๋าที่ใช้บนเครือข่าย Solana จะมีระบบนี้ติดมาอยู่แล้ว ไม่ต้องลงอะไรเพิ่มให้ยุ่งยาก
ในคู่มือนี้เราจะใช้ Phantom Wallet เป็นตัวอย่าง เพราะใช้ง่าย หน้าตาเป็นมิตร มือใหม่ก็ใช้ได้สบาย แถมรองรับการ Stake ได้โดยตรงในไม่กี่คลิก ไม่ต้องโยกไปหน้าเว็บอื่นให้วุ่นวาย
ถัดไป ให้คลิกที่ “Create a new wallet”
หลังจากนั้น ระบบจะถามว่าคุณจะดำเนินการต่อด้วย Email หรือ Seed phrase wallet ให้คลิก “Create a seed phrase wallet”
ต่อมา สร้างรหัสผ่านของคุณ จากนั้นก็ไปที่หน้าแสดง Recovery Phrase ให้คุณจดคำศัพท์เหล่านี้ ลงบนกระดาษ แล้วติ๊กเครื่องหมายถูกในช่องยืนยัน จากนั้นก็กด “Continue”
สร้างชื่อผู้ใช้ (username) แล้วคลิก “Continue” จึงถือเป็นอันเสร็จสิ้นการสร้างกระเป๋าเงิน Solana ของคุณ
ขั้นตอนที่ 2 : โอนเงินเข้ากระเป๋า
โอนเงิน SOL เข้า Phantom Wallet โดยจะโอน SOL จากกระเป๋าอื่น หรือซื้อด้วยบัตรเดบิต/เครดิตผ่านปุ่ม “Buy”
Phantom ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ เช่น Robinhood หรือ Topper เพื่อให้การจ่ายเงินด้วยบัตรสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถซื้อเหรียญได้จากภายในแอปกระเป๋าเงินเลย
หลังจากเติมเงินเข้ากระเป๋าแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มการ Stake กัน
ขั้นตอนที่ 3 : เริ่มต้นการ Stake
เปิดหน้าลิสต์เหรียญของคุณขึ้นมา แล้วคลิกไปที่ “Solana”
เลือก “Start earning SOL”
จากนั้น ให้คุณเลือกระหว่าง “Liquid Staking” หรือ “Native Staking”
โดยปกติแล้ว Liquid Staking จะทำผ่านผู้ให้บริการภายนอก โดย Phantom จะทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Liquid Staking ของ Jito ทำให้คุณได้รับเหรียญ JitoSOL (LSTs) เมื่อคุณเลือก Liquid Staking
หากคุณเลือก Liquid Staking กระเป๋า Phantom จะแสดงรายละเอียดผลตอบแทนรายปีโดยประมาณ (APY) และจำนวน JitoSOL ที่คุณจะได้รับจากการ Stake
หลังจากนั้น จะเห็นได้ว่าเหรียญ JitoSOL ปรากฏในลิสต์เหรียญของคุณตามภาพ
หากคุณเลือก Native Staking คุณจะต้องเลือก Validator Phantom จะแสดงรายชื่อ Validator ตามจำนวน SOL ที่ถูก Stake ให้กับพวกเขา และ APY โดยประมาณ
เลือก Validator ใส่จำนวน SOL ที่คุณต้องการ Stake แล้วคลิก “Stake” เครือข่ายจะสร้างบัญชี Stake ของคุณ และคุณจะเริ่มได้รับรางวัลภายในอีกไม่กี่วันถัดมา
ยินดีด้วย มาถึงขั้นตอนนี้คุณได้ Stake เหรียญ SOL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือ คุณสามารถ Stake เหรียญ Solana ได้ด้วยจำนวนน้อยมากๆ เพียงแค่ 0.01 SOL เท่านั้น ทำให้ Solana เป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนแบบ PoS ที่เข้าถึงง่ายที่สุดเหมาะสำหรับมือใหม่
การ Stake เหรียญ Solana ในกระเป๋าเงินปลอดภัยหรือไม่ ?
แม้ว่าการ Stake เหรียญ Solana จะถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมในการสร้างรายได้แบบไม่ต้องเทรด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงบางอย่างที่ควรรู้ไว้ก่อนเริ่มต้นจริงจัง
อย่างแรกคือ ความผันผวนของตลาด เพราะราคาของ SOL สามารถขึ้นหรือลงได้ตลอดเวลาเหมือนเหรียญคริปโตอื่น ๆ ถึงแม้คุณจะได้รับรางวัลจากการ Stake เป็นระยะ แต่ถ้าราคาตลาดดิ่งลง มูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่ถืออยู่ก็อาจลดลงตามไปด้วย
อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ พฤติกรรมของ Validator ที่คุณเลือกมอบเหรียญให้ Stake ด้วย เพราะถ้า Validator เหล่านั้นกระทำผิด เช่น ไม่ทำหน้าที่ หรือไม่ซื่อสัตย์ อาจทำให้โดน “Slashing” ซึ่งก็คือการลดรางวัลที่ควรจะได้ แม้ว่าตัวเหรียญต้นทุนของคุณจะไม่ได้หายไป แต่ผลตอบแทนที่ได้ก็อาจลดลงอย่างชัดเจน
ความเสี่ยงด้าน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากโลกบล็อกเชนยังคงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์อยู่ตลอดเวลา ทางที่ดีควรอัปเดตความรู้เรื่องความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เช่น การใช้ Hardware Wallet หรือการระวังลิงก์ปลอมและฟิชชิ่งต่าง ๆ
นอกจากนี้เครือข่าย Solana เองก็เคยประสบปัญหา ระบบล่ม ในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงที่มีปริมาณธุรกรรมหนาแน่น แม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่ทำให้เหรียญของคุณหายไป แต่ก็อาจเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีใช้ช่วงเวลาที่ระบบอ่อนแอในการโจมตีเครือข่าย
ดังนั้น ถึงแม้การ Stake บน Solana จะเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี แต่ก็เหมือนกับการลงทุนอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงซ่อนอยู่เสมอ การรู้เท่าทัน เข้าใจระบบ และดูแลเหรียญของตัวเองให้ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะสุดท้ายแล้ว เหรียญอาจทำงานแทนคุณได้ แต่หน้าที่ของคุณคือดูแลมันให้ดีเช่นกัน
ที่มา:cointelegraph