Tesla ยังคงถือครอง Bitcoin จำนวน 11,509 BTC ตลอดไตรมาสแรกของปี 2025 โดยไม่ได้ขายออกเลยแม้แต่เหรียญเดียว ตามรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 เมษายน
แม้ราคาของ Bitcoin จะร่วงลงประมาณ 12% ในไตรมาสดังกล่าว ทำให้มูลค่าการถือครอง Bitcoin ของ Tesla อยู่ที่ราว 951 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม แต่เมื่อราคา Bitcoin พุ่งกลับขึ้นมา 6% แตะ 93,000 ดอลลาร์ ในวันอังคาร มูลค่าของ Bitcoin ที่ Tesla ถืออยู่ ก็ขยับเพิ่มขึ้นกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ อีกครั้ง


แม้ Tesla จะยังคงถือครอง Bitcoin ไว้ แต่ในทางกลับกัน ธุรกิจหลักของบริษัทกลับดูไม่ค่อยสดใสนัก เนื่องจากเผชิญกับผลประกอบการที่ต่ำกว่าที่คาดอย่างชัดเจน รายได้รวมลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหลือประมาณ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ กำไรต่อหุ้นก็อยู่ที่ 0.27 ดอลลาร์ ซึ่งไม่ถึงเป้าที่วิเคราะห์ไว้ที่ 0.41 ดอลลาร์ – 0.42 ดอลลาร์
นอกจากนี้รายได้จากการขายรถยนต์ยังลดลง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากยอดส่งมอบรถยนต์ลดลง 13% และการผลิตลดลง 16% ซึ่ง Tesla ระบุว่า เป็นผลจากการอัปเกรดสายการผลิต Model Y ถึง 4 ไลน์
แต่ในทางตรงข้าม ธุรกิจพลังงานของ Tesla กลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้เพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนรายได้จากการรายได้จาก เครดิตคาร์บอน (Regulatory Credits) ก็เพิ่มขึ้นจาก 432 ล้านดอลลาร์ เป็น 595 ล้านดอลลาร์
ในระหว่างการแถลงผลประกอบการ Elon Musk ประกาศว่า จะลดบทบาทจากการมีส่วนร่วมในรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้าน DOGE (Department of Government Efficiency) เพื่อกลับมาโฟกัส และให้เวลากับ Tesla มากขึ้น โดยกล่าวว่า “ตั้งแต่เดือนหน้า ผมจะกลับมาให้เวลาเต็มที่กับ Tesla เพราะตอนนี้งานหลักในการตั้งหน่วยงานของรัฐก็เสร็จสิ้นแล้ว”
ที่ผ่านมาบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาลทรัมป์ ได้เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร ถึงขั้นมีการประท้วง ทำลายทรัพย์สิน และแคมเปญบอยคอตต์ต่าง ๆ ต่อ Tesla หุ้นของบริษัท ก็ราคาร่วงไปแล้วประมาณ 41% ตั้งแต่ต้นปี แต่หลังจากที่ Elon Musk ประกาศ จะกลับมา โฟกัส Tesla หุ้นบริษัทก็ราคาพุ่งขึ้นมาเกือบ 5% เลยทีเดียว
ที่มา : cryptobriefing