ทุกวันนี้ การที่บริษัทใหญ่ ๆ เริ่มเข้ามาลงทุนใน Bitcoin กันมากขึ้น ก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจตามมา นั่นคือ “ความมั่งคั่ง” ที่เริ่มกระจุกตัวอยู่กับเจ้ามือเพียงไม่กี่ราย ซึ่งปัจจุบันแค่สองบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock และ Strategy ก็ถือ Bitcoin รวมกันมากกว่าผู้สร้างเหรียญนี้อย่าง Satoshi Nakamoto แล้ว
ตามข้อมูลล่าสุด กองทุน Spot Bitcoin ETF ของ BlackRock ถือครอง Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 573,187 BTC ส่วนทางฝั่ง MicroStrategy ถือ Bitcoin อยู่ราว ๆ 538,200 BTC พอรวมกันแล้วทั้งสองเจ้าถืออยู่ถึง 1,111,387 BTC เลยทีเดียว ซึ่งมากกว่า Satoshi Nakamoto อยู่ประมาณ 15,387 BTC
เมื่อเทียบกับที่มีการประเมินว่า Satoshi ถือ Bitcoin อยู่ประมาณ 1,096,000 BTC ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้จากงานวิเคราะห์ในปี 2013 ของ Sergio Lerner โดยใช้วิธีศึกษารูปแบบการขุดบล็อกยุคแรกที่เรียกว่า “Patoshi Pattern” จะเห็นว่าตัวเลขของ BlackRock และ Strategy แซงหน้าขาดลอย
แม้จะมีนักวิจัยบางคนแย้งว่า Satoshi อาจไม่ได้ถือไว้มากขนาดนั้น หรืออาจมีการขุดร่วมกับผู้อื่นในช่วงแรก แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าผู้สร้าง Bitcoin จะถือมากกว่า 1.1 ล้าน BTC จริง ๆ
ดังนั้นก็อาจพูดได้ว่า วันนี้ “เจ้าของ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก” ไม่ใช่ Satoshi อีกต่อไป แต่กลายเป็นบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock และ Strategy
แม้ว่า BlackRock กับ Strategy จะถือครอง Bitcoin มากกว่า Satoshi จริง ๆ ในเชิงตัวเลข แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าเหรียญพวกนี้ไม่ได้เป็นของบริษัทแบบ “ไม่มีพันธะผูกพัน” อย่าง Satoshi ที่ขุดเหรียญเองแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าส่วนตัว ไม่เคยมีใครมาอ้างสิทธิ์ร่วมเลย ต่างกับ Bitcoin ของสองบริษัทยักษ์ที่มี “เจ้าของร่วม” นับล้าน
ในกรณีของ BlackRock เหรียญกว่า 573,000 BTC นั้นเป็นของผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน IBIT ทั่วโลก ไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัทเอง ส่วน Strategy ก็คล้ายกัน แต่ต่างตรงที่เป็นบริษัทที่มีหนี้ มีผู้ถือหุ้น มีเจ้าหนี้ มีพนักงานที่ต้องจ่ายเงินเดือน และมีหน้าที่ต้องจ่ายภาษี ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้ Bitcoin ที่ถืออยู่กว่า 538,000 เหรียญนั้นถูก “ผูกพัน” ด้วยเงื่อนไขทางการเงินเต็มไปหมด
สรุปง่าย ๆ ก็คือ ถึงแม้ทั้งสองบริษัทจะถือครอง Bitcoin มากกว่า Satoshi ในเชิงตัวเลขแต่ความเป็นเจ้าของจริง ๆ นั้นกระจายไปยังผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้นับไม่ถ้วน ต่างจาก Satoshi ที่ยังคงเป็นเจ้าของ Bitcoin เพียงคนเดียวที่ “ไม่มีใครแตะต้องได้” และยังถือว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคริปโตอยู่ดีในแง่ความเป็นเจ้าของแบบแท้จริง
ที่มา: protos