MetaMask ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินคริปโทฯ เจ้าดัง ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับยักษ์ใหญ่วงการบัตรเครดิตอย่าง Mastercard เพื่อเตรียมเปิดตัวบัตรคริปโทฯ แบบ Self-Custody ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลจากวอลเล็ทคริปโทฯ ได้อย่างสะดวกสบาย ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ให้ผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถนำโทเคนต่างๆ มาจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน
ความน่าสนใจของบัตร MetaMask คือ การเป็นบัตรแบบ “Self-custody” หมายความว่า ผู้ใช้งานจะยังคงเป็นผู้ควบคุม Private Key และสินทรัพย์ของตนเองแบบ 100% แตกต่างจากบัตรคริปโทฯ ในตลาดบางประเภทที่จำเป็นต้องฝากสินทรัพย์ไว้กับผู้ให้บริการ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ MetaMask จึงถูกมองว่า เป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญไปกับการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของตนเอง
เบื้องหลังการพัฒนาบัตรสุดล้ำนี้ ยังมีบริษัท CompoSecure และ Baanx เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญ โดยเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของบัตรคือ “สัญญา Smart Contract” ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกรรมในโลกจริง (In Real Life หรือ IRL) เป็นไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วในการประมวลผลที่ต่ำกว่า 5 วินาที บนเครือข่าย Linea ซึ่งเป็นโซลูชั่น Layer-2 ของ Ethereum
การผลักดันบัตรคริปโทฯ รูปแบบ self-custody นี้ ถูกมองว่าเป็นการนำเสนอทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีแบบรวมศูนย์ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยดังเช่นกรณี การถูกแฮ็กครั้งใหญ่ของ Bybit ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การก้าวเข้าสู่ตลาดบัตรชำระเงินคริปโทฯ ของ MetaMask ถือเป็นการเข้าสู่สมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหญ่อยู่แล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Binance, Bybit, Coinbase และ Crypto.com ที่ต่างก็มีบัตรเดบิตคริปโทฯ ให้บริการ พร้อมทั้งข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น ระบบ “crypto-back” ที่ให้ผู้ใช้งานได้รับสินทรัพย์ดิจิทัลคืนเมื่อมีการใช้จ่าย
ที่มา:cointelegraph