ใครที่สงสัยว่า “โทเคนคาร์บอนเครดิต” ที่กำลังถูกพูดถึงในเมืองไทย มันคืออะไรกันแน่ แล้วทำไมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ถึงเตรียมเปิดไฟเขียวให้ซื้อขายกันบนกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลได้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องนี้พร้อมทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน
เรื่องเริ่มต้นจากที่ ก.ล.ต.ไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียวจึงมีมติเห็นชอบหลักการที่จะเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ซื้อขาย นายหน้า หรือผู้ค้า สามารถนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลดก๊าซเรือนกระจกมาเปิดให้บริการซื้อขายได้
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “Tokenized Carbon Credit” หรือโทเคนคาร์บอนเครดิตนั่นเอง นอกจากนี้ยังมี “Tokenized REC” หรือใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบโทเคนดิจิทัล และ “Tokenized Carbon Allowance” หรือสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรูปแบบโทเคนดิจิทัล ที่จะเข้ามาเสริมทัพ
แล้ว “โทเคนคาร์บอนเครดิต” คืออะไร ?
ก่อนจะเข้าใจคำนี้ เราต้องทำความรู้จักคำว่า “คาร์บอนเครดิต” กันก่อน โดยคาร์บอนเครดิตคือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากการดำเนินกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งได้รับการรับรองและบันทึกในระบบทะเบียนของหน่วยงานรับรองคาร์บอนเครดิต
ดังนั้น โทเคนคาร์บอนเครดิต (Tokenized Carbon Credit) ก็คือการแปลงคาร์บอนเครดิตเหล่านี้ มาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของ “โทเคนดิจิทัล” ซึ่งเหมือนกับการสร้างเหรียญดิจิทัลที่มีคาร์บอนเครดิตของจริงค้ำประกันอยู่เบื้องหลัง ทำให้สามารถซื้อขายหรือถือไว้ได้ง่ายขึ้นผ่านระบบบล็อกเชน
แล้วทำไมต้องเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตให้เป็นโทเคนดิจิทัล?
สาเหตุที่โทเคนคาร์บอนเครดิตถูกพัฒนาขึ้นมา ก็เพื่อแก้ไขปัญหาหลัก ๆ ของตลาดคาร์บอนดั้งเดิม เช่น การซื้อขายที่ยุ่งยาก โปร่งใสไม่มากพอ และต้นทุนการโอนกรรมสิทธิ์ที่สูง
เมื่อเปลี่ยนมาอยู่บนระบบบล็อกเชน การซื้อขายโทเคนจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย และลดต้นทุนการทำธุรกรรมลงอย่างมาก นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ตลาดคาร์บอนที่เคยจำกัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ กลายเป็นตลาดที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ก.ล.ต. ไทยมองว่าการเปิดทางให้ซื้อขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในรูปแบบดิจิทัลจะเข้าช่วยสนับสนุนเป้าหมายด้านเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ไทม์ไลน์การเคลื่อนไหวของ ก.ล.ต. ไทย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีมติเห็นชอบในหลักการปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแล เพื่อเปิดทางให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถให้บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงกับคาร์บอนเครดิต (Tokenized Carbon Credit) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate – REC) และสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Allowance) ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อเนื่องจากมติดังกล่าว วันที่ 29 เมษายน 2568 ก.ล.ต. ได้ขยับอีกขั้น ด้วยการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจ เกี่ยวกับหลักการและร่างประกาศที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายโทเคนคาร์บอนเครดิต โดยมีรายละเอียดสำคัญ เช่น การกำหนดประเภทผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอนที่สามารถนำมาให้บริการซื้อขายได้ ตลอดจนเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติ เช่น ระบบการคัดเลือกและการเปิดเผยข้อมูลโทเคนดิจิทัล รวมถึงข้อกำหนดที่ต้องถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ให้บริการ
ทั้งนี้ ก.ล.ต. เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ก.ล.ต. เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนก่อนสรุปผลอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่าสถานะปัจจุบัน โทเคนคาร์บอนเครดิตยังไม่ได้เปิดให้มีการซื้อขายจริงบนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย เนื่องจากขั้นตอนยังอยู่ในระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น (Hearing) และก.ล.ต. ยังไม่ได้ออกประกาศหรืออนุญาตอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ดังนั้น การดำเนินการทั้งหมดในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อม ปรับปรุงเกณฑ์ และประเมินผลกระทบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการกำกับดูแลจะมีความชัดเจน โปร่งใส และสามารถสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่กับการคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสม
และหากกระบวนการต่าง ๆ เป็นไปตามแผน เราอาจได้เห็นการเปิดให้บริการซื้อขายโทเคนคาร์บอนเครดิตอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในอนาคตอันใกล้นี้