เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนออกโรงโต้ทันควัน หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อ้างว่า “สี จิ้นผิง” โทรมาหา โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงอย่างชัดเจนว่า “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่ได้มีการโทร ไม่มีการเจรจา และไม่มีดีลลับใด ๆ ทั้งสิ้นกับโดนัลด์ ทรัมป์” พร้อมบอกว่า สิ่งที่ทรัมป์พูดคือ เรื่องโกหก ทำให้ความหวังว่า สองประเทศมหาอำนาจ ได้เคลียร์ปัญหา เจรจาเรื่องสงครามการค้าระหว่างกันอย่างลับๆ ต้องพังทลายลง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กัว เจียคุน (Guo Jiakun) กล่าวว่า “เท่าที่ทราบ ไม่มีการโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า จีนและสหรัฐฯ ไม่ได้มีการเจรจาหรือหารือใด ๆ เรื่องภาษี นี่คือเรื่องโกหก”
แม้ทรัมป์จะยังอ้างว่า เขาได้รับสายจากผู้นำจีนจริง พร้อมกล่าวว่า เขาพร้อมจะ “ใจดี” ถ้าหากผู้นำจีน อยากเข้าร่วมเปิดโต๊ะพูดคุย แต่ทรัมป์ก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับการสนทนา ทั้งเรื่องวัน เวลา หรือแม้แต่หัวข้อสนทนา
บันทึกทางการแสดงว่า การพูดคุยระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ กับสี จิ้นผิง เกิดขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อ 17 มกราคม ก่อนพิธีสาบานตนที่ทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้ง
ในขณะที่ทรัมป์ยังพูดถึงเรื่องการเจรจาและความร่วมมือ จีนกลับออกแถลงการณ์ต่อเนื่อง โดยย้ำว่า “สหรัฐฯ อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิด” เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องการค้าระหว่างสองประเทศ
ทันทีที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว เขาก็สั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 145% โดยเว้นเฉพาะบางหมวด เช่น สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ พร้อมเรียกแนวทางนี้ว่า “ภาษีตอบโต้” หรือ “ภาษีต่างตอบแทน”
ซึ่งจีนก็ตอบโต้ทันที ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% พร้อมกับลดภาษีบางรายการ โดยลดภาษีนำเข้าชิปเซมิคอนดักเตอร์บางประเภทที่ผลิตในอเมริกา อย่างเงียบ ๆ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ
ด้าน สก็อต เบสเซนท์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบัน ออกให้สัมภาษณ์กับรายการ “This Week” ของ ABC เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า ผมไม่รู้เลยว่า ทรัมป์โทรคุยกับสี จิ้นผิงหรือเปล่า แต่รัฐบาลกำลังพูดคุยกับหลายประเทศเรื่องการค้า และภาษีระดับสูงแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน พร้อมย้ำว่า ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีและให้เกียรติกัน
ที่มา : cryptopolitan