ในช่วงเวลาที่หลายคนต่างจับจ้องไปยังการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ถึงนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า Fed จะยังคงคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่ Bitcoin และ Altcoins ก็ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นได้ หากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ถูกบังคับให้ฉีดสภาพคล่องเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
Jim Paulsen นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนชื่อดังระบุว่า เมื่อ Fed Funds สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Fed Funds ลบด้วย Core PCE) เศรษฐกิจก็มักจะเข้าสู่ช่วงชะลอตัว ซึ่งในอดีต ตั้งแต่ปี 1971 เป็นต้นมา ก็เคยเกิดรูปแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง และถ้ารอบนี้ เป็นเช่นนั้นจริง Fed อาจจำเป็นต้องหันมาลดอัตราดอกเบี้ยลงในที่สุด
ตามความเห็นของ Paulsen ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มที่จะถูกบังคับให้ลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลาง Jerome Powell ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ Fed ที่ไม่ลดต้นทุนทางการเงินให้เร็วพอ
เหตุผลที่ Fed อาจเริ่มผ่อนคลายนโยบาย
ความกังวลของตลาดได้เพิ่มขึ้น เมื่อดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ร่วงลงมาต่ำกว่า 100 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี ขณะที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และตอนนี้ก็อยู่ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล นักลงทุนเริ่มแสดงความไม่มั่นใจว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถจัดการหนี้สินและการเงินของตัวเองได้ดีแค่ไหน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางเช่นนี้
แม้ความคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยหลายครั้งจะลดลง จาก 90% เหลือ 76% สำหรับการลดดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน 2025 แต่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า หาก Fed ต้องเข้ามาซื้อพันธบัตรหรือขยายงบดุลอีกครั้ง ก็จะเพิ่มเงินเข้าสู่ระบบ ซึ่งในอดีตก็เคยเป็นปัจจัยที่ผลักดันราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้พุ่งขึ้นมาแล้ว
นักวิเคราะห์บางคนชี้ให้เห็นว่า การซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 20,500 ล้านดอลลาร์ครั้งล่าสุดของ Fed (5 พ.ค.) เป็นสัญญาณของการเข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้ง ในอดีตเวลาที่ Fed อัดฉีดเงินเข้าระบบแบบนี้ มักจะเป็นผลดีกับพวกคริปโทฯ เพราะมีเงินไหลเข้ามามากขึ้น
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ลดลงต่ำกว่า 100 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2023 เนื่องจากนักลงทุนถอนตัวออกจากตลาดสหรัฐฯ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 12% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และขณะนี้ซื้อขายต่ำกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลที่ $3,500 เพียง 2%
เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ความน่าสนใจของการถือเงินสดก็ลดลง นักลงทุนจึงเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ และหนึ่งในนั้นก็คือ Bitcoin ซึ่งไม่สามารถพิมพ์เพิ่มได้ และมีจำนวนจำกัด สถานการณ์ในตอนนี้จึงอาจเอื้อให้ราคาคริปโทฯ เคลื่อนไหวสวนทางกับนโยบายดอกเบี้ยที่ยังนิ่งอยู่ได้
แม้ว่าทิศทางของตลาดจะยังไม่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ความสนใจต่อสินทรัพย์อย่าง Bitcoin ไม่ได้ลดลงเลย ในทางกลับกัน ยิ่งความไม่แน่นอนมากเท่าไหร่ Bitcoin ก็ยิ่งถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น
ที่มา:cointelegraph