Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของบริษัท Strategy หรือชื่อเดิมคือ MicroStrategy ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นบริษัทที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก ล่าสุดได้เปิดเผยว่า เบื้องหลังการสร้างอาณาจักร Bitcoin มูลค่า 52,000 ล้านดอลลาร์ จากจุดเริ่มต้นเพียง 250 ล้านดอลลาร์เมื่อ 5 ปีก่อน ไม่ได้ใช้แค่กลยุทธ์การเงินทั่วไป แต่ยังอาศัยพลังของ AI ในการออกแบบผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ Strategy เผยในงาน Strategy World ว่า ใช้ AI ตั้งแต่ขั้นตอนง่าย ๆ อย่าง การช่วยแก้ไขข้อความ ไปจนถึงขั้นที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกกว่า 50 แหล่ง เพื่อหาแนวทางออกแบบผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ ซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับการระดมทุน เพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
Michael Saylor กล่าวว่า “ผมจะใส่ prompt แบบลึก ๆ ให้แชตบอท แล้วปล่อยให้มันอ่านข้อมูลจาก 50 แหล่ง ภายใน 15 นาที จากนั้นมันจะกลับมาพร้อมผลลัพธ์ที่แม้จะไม่สมบูรณ์ 100% แต่ก็ใกล้เคียงถึง 80-95% ของสิ่งที่ผมต้องการ ซึ่งเพียงพอที่จะนำไปต่อยอดได้แล้ว”
ผลงานของการใช้ AI คือ การออกหุ้นบุริมสิทธิแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Strike (STRK) และ Strife (STRF) ซึ่ง Strike (STRK) เป็นหุ้นบุริมสิทธิที่จ่ายเงินปันผล 8% เป็นเงินสดหรือแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ และ Strife (STRF) ไม่สามารถแปลงกลับมาเป็นหุ้นสามัญของ Strategy ได้ แต่มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนที่ต้องการรายได้มั่นคง
Michael Saylor ระบุว่า การออกหุ้นแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาด Nasdaq และเป็นครั้งแรกที่ Michael Saylor เชื่อว่า AI มีบทบาทสำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์การเงินเหล่านี้
กลยุทธ์ของ Strategy ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัท Strategy พุ่งทะยานแซงหน้าหุ้นดัชนี S&P 500 หรือแม้แต่หุ้น Nvidia นับตั้งแต่บริษัท ก้าวเข้าสู่สิ่งที่ Michael Saylor เรียกว่า “ยุคมาตรฐาน Bitcoin” ในปี 2020 โดยเริ่มต้นจากเงินลงทุนเพียง 250 ล้านดอลลาร์ แต่ในปัจจุบันมูลค่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่า 200 เท่าแล้ว
Michael Saylor ยังมองว่า การที่ AI, Bitcoin และข้อมูลดิจิทัล มาบรรจบกัน จะเปลี่ยนโลกการเงินไปโดยสิ้นเชิง
Michael Saylor กล่าวว่า “ถ้าคุณเป็นบริษัท เป็นนักลงทุน หรือเป็นคนทำธุรกิจ… เมื่อคุณได้รับพลังจาก AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างก้าวกระโดด คำถามคือคุณจะนำผลกำไรนั้นไปไว้ที่ไหน? คำตอบคือ: Bitcoin”
สุดท้าย Michael Saylor ทิ้งท้ายด้วยมุมมองว่า ในโลกที่มีบริษัทแข่งขันกันกว่า 400 ล้านแห่ง การคิดแบบเดิมหรือเดินตามฉันทามติจะไม่ทำให้สำเร็จได้ ต้องกล้าที่จะคิดนอกกรอบ และใช้เครื่องมือใหม่อย่าง AI และ Bitcoin ให้เป็นประโยชน์สูงสุด
ที่มา : decrypt