นิวแฮมป์เชอร์สร้างปรากฏการณ์ใหม่ กลายเป็นรัฐแรกในอเมริกาที่ตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลระดับรัฐขึ้นมาอย่างเป็นทางการ
โดยผู้ว่าการรัฐ Kelly Ayotte ได้ลงนามผ่านร่างกฎหมาย House Bill 302 เรียบร้อยแล้วในสัปดาห์นี้ ซึ่งกฎหมายใหม่นี้เปิดทางให้เหรัญญิกรัฐสามารถนำเงินทุนของรัฐสูงสุด 5% ไปลงทุนใน Bitcoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่มีมูลค่าตลาดรวมเกิน 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตอนนี้ก็มีแค่ Bitcoin เท่านั้นที่เข้าเกณฑ์
กฎหมายฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วัน และถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดด้านการบริหารเงินทุนสำรองของรัฐในยุคดิจิทัล พร้อมดันให้นิวแฮมป์เชอร์ ขึ้นแท่นผู้นำระดับประเทศในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองรัฐบาล
สิ่งที่น่าสนใจคือ การตัดสินใจครั้งสำคัญของ ‘รัฐนิวแฮมป์เชอร์ ’ นั้นสวนทางกับความพยายามของหลายๆ รัฐในอเมริกา ที่พยายามผลักดันกฎหมายในลักษณะเดียวกันแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือใน ‘รัฐฟลอริดา’ ที่พยายามผลักดันร่างกฎหมาย HB 487 และ SB 550 เพื่อจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเหลวไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับถูกถอดถอนออกไป และไม่มีการนำมาพิจารณาอีกครั้งก่อนที่วาระการประชุมสภาจะสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รัฐอื่นๆ อย่าง ไวโอมิง นอร์ทดาโคตา และมอนแทนา ก็เผชิญกับอุปสรรคในลักษณะเดียวกัน ในขณะที่รัฐแอริโซนา ร่างกฎหมายที่เสนอแนวคิดคล้ายคลึงกันกลับถูกผู้ว่าการรัฐ Katie Hobbs ออกมาคัดค้านอย่างชัดเจน โดยเธอมองว่า สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นยังคงเป็น “การลงทุนที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์” ซึ่งมีความเสี่ยงสูง
แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายในหลายพื้นที่ทั่วอเมริกา แต่การอนุมัติครั้งสำคัญของ ‘รัฐนิวแฮมป์เชอร์ ’ อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสใหม่ที่จุดประกายให้รัฐอื่นๆ หันกลับมาพิจารณานโยบายในลักษณะเดียวกันอีกครั้ง และกลายเป็นต้นแบบให้กับรัฐอื่นๆ เดินตามรอยในเร็ววัน
ที่มา:londoninsider