Coinbase Global (COIN) บริษัทกระดานเทรดคริปโตชื่อดังของสหรัฐฯ เตรียมตัวเข้าร่วมดัชนี S&P 500 ในวันที่ 19 พฤษภาคม นี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจด้านคริปโทเคอร์เรนซีได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยในขณะนี้ Coinbase ถือเป็นบริษัทคริปโตเพียงรายเดียวที่ได้รับเกียรติ
ในวันที่ 12 พฤษภาคม S&P Global ได้ประกาศว่า หุ้น Coinbase จะเข้ามาแทนที่ Discover Financial Services ตัวย่อหุ้น “DFS” ซึ่งเพิ่งถูกควบรวมกิจการไปโดย Capital One Financial Corp
สำหรับดัชนี S&P 500 นั้น ถือเป็นมาตรวัดสำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 500 แห่ง ทำให้การถูกรวมเข้าในดัชนีนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการยอมรับในระดับสากลเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อราคาหุ้นของ Coinbase อีกด้วย เนื่องจากกองทุนดัชนีและกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับ S&P 500 จำเป็นต้องซื้อหุ้น “COIN” เพื่อให้การลงทุนสอดคล้องกับดัชนี
S&P 500 เป็นดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่รวบรวมบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่ง โดยพิจารณาตามมูลค่าตลาดรวม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 49.8 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้บริษัทบิ้กเทคฯ ใหญ่ เช่น Microsoft, Apple และ Nvidia จะมีน้ำหนักมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ในดัชนี S&P 500 ส่วนบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น Coinbase ซึ่งเพิ่งได้รับการประกาศเข้าร่วม S&P 500 จะอยู่ในกลุ่มล่างสุดของดัชนี โดยมีน้ำหนักราว 0.01% ถึง 0.2% เท่านั้น ถึงแม้จะมีสัดส่วนน้อย แต่การเข้าร่วมดัชนีก็จะช่วยดึงดูดเงินลงทุนจากกองทุนที่อิงกับดัชนีนี้ทันที
หลังมีข่าวว่า Coinbase จะเข้าสู่ S&P 500 อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นทันที 8.8% ในช่วงการซื้อขายหลังตลาดปิด ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปอยู่ที่ $225.4 ขณะที่ในวันก่อนหน้า (12 พฤษภาคม) หุ้น COIN ก็ปิดบวกไปแล้ว 4% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Coinbase พุ่งขึ้นแตะ 5.28 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
Alesia Haas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Coinbase กล่าวว่า การได้เข้าร่วมดัชนี S&P 500 ถือเป็นก้าวสำคัญ ไม่ใช่แค่สำหรับบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมด เพราะเป็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มยอมรับคริปโตมากขึ้น และเป็นทิศทางใหม่ที่โลกกำลังมุ่งไป
ในขณะเดียวกัน บริษัท Strategy (MSTR) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตจากการสะสม Bitcoin จำนวนมาก ก็เคยถูกจับตามองว่าจะได้เข้าดัชนีเช่นกัน แต่เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025 ทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์ด้านกำไรตามข้อกำหนดของ S&P 500 จึงยังไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมในเร็ว ๆ นี้
ที่มา:cointelegraph