บริษัท Strategy ของ Michael Saylor ที่ปัจจุบันเป็นบริษัทมหาชนที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก อาจกลายเป็น “หุ้นอันดับหนึ่งของตลาด” ได้ในอนาคต ตามคำกล่าวของ Jeff Walton นักวิเคราะห์จาก Strategy ที่ให้สัมภาษณ์ในสารคดีของ Financial Times เรื่อง “Michael Saylor’s $40 billion Bitcoin bet”
โดยปัจจุบัน Strategy ถือครอง Bitcoin จำนวนประมาณ 568,840 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 59 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Walton มองว่านี่คือข้อได้เปรียบสำคัญที่อาจทำให้บริษัทก้าวข้ามทุกบริษัทมหาชนอื่นๆ ได้ในระยะยาว
“Strategy ถือครองสินทรัพย์ที่ดีที่สุดและมีหลักประกันที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มากกว่าบริษัทอื่น ๆ หลายเท่า”
นอกจากการถือครอง Bitcoin ในปริมาณมหาศาลแล้ว Walton ยังชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการระดมทุนอย่างรวดเร็วของบริษัท โดยยกตัวอย่างว่าในเดือนพฤศจิกายน 2024 Strategy สามารถระดมทุนได้ถึง 12 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 50 วัน ซึ่งเงินทุนนี้ได้นำไปซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม
“ปกติการระดมทุน 100 ล้านดอลลาร์ก็ยากมาก แต่พวกเขาทำแบบนั้นได้ถึง 120 ครั้งภายในเวลาเพียง 50 วัน และนำเงินทั้งหมดไปซื้อ Bitcoin นี่มันบ้าไปเลย”
Saylor ยังได้แสดงความมั่นใจว่า Strategy มีศักยภาพเติบโตจากบริษัทมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ไปสู่ 1 ล้านล้าน หรือแม้กระทั่ง 10 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมคาดการณ์ว่า Bitcoin จะมีมูลค่าถึง 13 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญภายในปี 2045
“ผมคาดว่าในอีก 4 ถึง 8 ปีข้างหน้า หรืออย่างช้าใน 10 ปี Bitcoin จะมีมูลค่าแตะ 1 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญ และในอีก 20 ปีต่อจากนี้อาจแตะ 13 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญได้”
แม้จะมีมุมมองเชิงบวกต่ออนาคตของ Bitcoin และบริษัท Strategy แต่ Saylor ก็ย้ำว่าบริษัทได้วางโครงสร้างทุนไว้อย่างมั่นคง หาก Bitcoin ราคาร่วงถึง 90% และอยู่ในระดับนั้นนาน 4-5 ปี บริษัทยังคงอยู่รอดได้
“มันอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับผู้ถือหุ้น เพราะผู้ที่อยู่ในระดับบนของโครงสร้างทุนจะได้รับผลกระทบเนื่องจากมีการใช้เลเวอเรจ แต่สำหรับคนอื่น ๆ ในโครงสร้างทุน พวกเขาจะยังได้รับเงินคืนอยู่ดี”
ที่มา: Cointelegraph