Jamie Dimon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JPMorgan Chase ออกมาเตือนว่ายังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
“ผมจะขออิงตามนักเศรษฐศาสตร์ของเรา ที่ประเมินว่ามีโอกาส 50% ที่สหรัฐฯ จะเผชิญกับภาวะถดถอย… ถ้ามีถดถอยเกิดขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าจะรุนแรงแค่ไหนหรือจะกินเวลานานเพียงใด หวังว่าเราจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ผมยังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้นั้นออกไปได้เลย”
โดยในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ Bloomberg Television, Dimon ชี้ว่าความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งในแง่นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อเร่งตัว และชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ในระยะต่อไป
“ตลาดการเงินยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากสงครามในยูเครน ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ปัญหากับอิหร่าน รวมถึงปัญหาในประเทศอย่างการขาดดุลงบประมาณ และร่างกฎหมายภาษีที่ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดในเวลานี้”
Dimon ยังกล่าวถึงทิศทางของสงครามการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเขามองว่ามีพัฒนาการเชิงบวกบ้าง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและต้องจับตาต่อไป
“ผมคิดว่าการลดระดับความตึงเครียดและเปิดเจรจาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง การบรรลุข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรถือเป็นสัญญาณที่ดี แม้จะเป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้นก็ตาม มันช่วยให้ตลาดคลายกังวลลงได้บ้าง แต่สถานการณ์กับจีนก็ยังคงน่าจับตา”
การแสดงความเห็นของ Dimon สะท้อนถึงมุมมองที่ระมัดระวังของธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งปัจจัยในประเทศและระดับโลก ที่ยังคงสร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: DailyHODL