วงการคริปโทฯ กำลังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ SWIFT ซึ่งเป็นระบบการโอนเงินที่มีมูลค่ามหาศาลกว่า 150 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เตรียมจะเปิดให้ทดลองใช้งานสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการโอนเงิน ในเดือนพฤศจิกายน 2025
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา SWIFT ได้ทำการทดลองเชื่อมต่อระบบธนาคารแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่ Stablecoin และ สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) และในที่สุด ระบบนี้ก็พร้อมก้าวสู่การทดลองใช้งานจริงกับธนาคารในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแล้ว
การทดลองเหล่านี้ จะเปิดโอกาสให้สถาบันการเงินสามารถใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล และรองรับการชำระเงินด้วยบัญชีเงินสดที่แปลงเป็นโทเคน นอกจากนี้ สถาบันต่างๆ จะสามารถจัดการค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องได้ในลักษณะเดียวกับเครือข่ายบล็อกเชน เช่น ค่า Gas โดยอ้างอิงข้อมูลราคาจากแหล่งมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการติดตามธุรกรรม
ทำไมการเปลี่ยนแปลงนี้ถึงมีความสำคัญ ?
ปัจจุบันแพลตฟอร์มคริปโทฯ ส่วนใหญ่ทำงานแยกตัวออกจากระบบธนาคารแบบดั้งเดิม ทำให้การเชื่อมต่อกันทำได้ยาก แต่การเข้ามาของ SWIFT จะช่วยสร้าง ‘ระบบแบบรวมศูนย์’ ที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทำให้ธนาคารสามารถทำธุรกรรมข้ามประเทศได้ง่ายขึ้น สำหรับทั้งสกุลเงินแบบดั้งเดิม (Fiat) และสกุลเงินคริปโทฯ โดยอาศัยเครือข่ายธนาคารคู่สัญญาของ SWIFT ที่มีอยู่แล้ว
การตัดสินใจของ SWIFT ในการรวมสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การอัปเกรดระบบเท่านั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างระบบการเงินที่เชื่อมโยงกันอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน SWIFT มีธนาคารมากกว่า 11,500 แห่งอยู่ในเครือข่าย พร้อมที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และสามารถขยายขนาดรองรับการใช้งานในอนาคตได้ ซึ่งการบูรณาการในครั้งนี้ จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกการเงินแบบดั้งเดิมและเศรษฐกิจดิจิทัล ปลดล็อกมูลค่าและศักยภาพใหม่ๆ เมื่อระบบมีการพัฒนาต่อไป
- ที่มาข่าว:altcoinbuzz
- ที่มาภาพ:quartz