<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นาทีวิกฤต ! Defi บนเชน Sui ถูกแฮ็ก 7.2 พันล้านบาท แต่เครือข่ายอายัดเงินเกือบทั้งหมดไว้ได้ทัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วงการคริปโตอาจต้องเผชิญกับอาการขวัญผวาอีกครั้ง เมื่อ Cetus Protocol ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตแบบกระจายศูนย์ (DEX) บนบล็อกเชน Sui ถูกแฮ็กครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินทุนผู้ใช้งานหายวับไปกว่า 220 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7.2 พันล้านบาท

แม้จะฟังดูเลวร้าย แต่ยังมีข่าวดีท่ามกลางวิกฤต เพราะทีมงานสามารถ “อายัด” เงินส่วนหนึ่งเอาไว้ได้ทัน! โดยบล็อกเชน Sui โชว์ศักยภาพจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถฟรีซเงินที่ถูกขโมยไว้ได้ราว 162 ล้าน  (ประมาณ 5.3 พันล้านบาท) จากทั้งหมด 220 ล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยลดขนาดความเสียหายไปได้มากพอสมควร

ล่าสุด Cetus Protocol ออกมายืนยันว่าจำนวนเงินที่สามารถอายัดได้ไว้แล้ว และตอนนี้กำลังทำงานร่วมกับทาง Sui Foundation และทีมต่าง ๆ ในระบบนิเวศ Sui เพื่อหาทางตามเงินที่เหลือกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด

ฝั่ง Sui Foundation ก็ออกมายืนยันเหตุการณ์แล้วเช่นกัน โดยแสดงความพร้อมในการประสานงานทุกฝ่ายเพื่อจัดการปัญหานี้ให้เร็วที่สุด

“ผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validators) จำนวนมาก ได้ทำการระบุ Address ของแฮ็กเกอร์ที่ขโมยเงินไป และทำการฟรีซธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Address เหล่านั้น จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป ทีมงานของ Cetus กำลังสำรวจแนวทางในการกู้คืนเงินเหล่านั้นและส่งคืนให้กับชุมชน”

จากรายงานเบื้องต้นดูเหมือนว่า การแฮ็กครั้งใหญ่บน Cetus DEX ครั้งนี้เกิดจากช่องโหว่ใน Smart Contract ของตัวแพลตฟอร์มเอง ส่งผลให้แฮ็กเกอร์สามารถ “ดูดเงิน” ออกจากระบบได้อย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว มูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 223 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 7.2 พันล้านบาท

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะข้อมูลจาก Extractor ซึ่งเป็นเครื่องมือแจ้งเตือนภัยด้านความปลอดภัยบน Web3 ก็เผยว่า แฮ็กเกอร์ได้โอนเงินที่ขโมยไปบางส่วนราว 63 ล้านดอลลาร์ ข้ามเครือข่ายไปยัง Ethereum เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่น่าจับตาคือมี Address หนึ่งที่ลงท้ายด้วย “AF16” ซึ่งถูกใช้เป็นกระเป๋าฟอกเงิน โดยมีการเคลื่อนย้ายเหรียญ ETH มากถึง 20,000 เหรียญ หรือคิดเป็นมูลค่าราว ๆ 53 ล้านดอลลาร์

ที่มา:Etherscan

นอกจากนี้ ยังมีการพบว่าในกระเป๋าเงินของกลุ่มแฮ็กเกอร์ตอนนี้ยังถือครองเหรียญและโทเคนอื่นอีกเพียบ รวมถึง SUI มูลค่าเกือบ 52 ล้านดอลลาร์, เหรียญ Haedal Staked SUI (HASUI) อีก 4.9 ล้านดอลลาร์, โทเคนมีมสุดแหวกอย่าง Toilet (TOILET) ก็มีอยู่ในพอร์ตถึง 19.5 ล้านดอลลาร์, ยังไม่พอ ยังมี wrapped USDt (USDT) อีก 19.5 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกล็อกไว้ในกระเป๋าเดียวกัน

ข้อถกเถียงเรื่องความเป็น Decentralized ของบล็อกเชน Sui 

แม้ว่า Sui จะสามารถ “ฟรีซ” หรือ “อายัด” เงินที่ถูกแฮ็กจาก Cetus DEX ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้งานที่สูญเสียเงินไป แต่ในอีกมุมหนึ่ง เสียงวิจารณ์ก็เริ่มดังขึ้นในชุมชนคริปโต 

หลายคนตั้งคำถามว่า การที่กลุ่ม Validators บน Sui ซึ่งมีเพียง 114 ราย สามารถสั่ง “ระงับ” ธุรกรรมของกระเป๋าเงินไหนก็ได้ตามดุลยพินิจนั้น สะท้อนความเป็น Decentralized อยู่จริงหรือเปล่า? และบล็อกเชน Sui มีความสามารถในการ “ต้านการเซ็นเซอร์” ได้มากน้อยแค่ไหน?

ประเด็นนี้อาจดูเหมือนเล็กน้อยในช่วงวิกฤต แต่ในระยะยาว มันคือคำถามใหญ่ที่อาจกระทบต่อ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักพัฒนา ที่อยากเข้ามาใช้บล็อกเชนนี้จริงจัง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์แฮ็ก Cetus Protocol ครั้งนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่ง “หมัดเตือนสติ” ให้กับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งานในโลกคริปโตว่า ความปลอดภัยยังคงเป็นหัวใจหลักของ Web3 โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ทุกอย่างดูจะก้าวไปไวกว่าที่เราคิด

ที่มา:cointelegraph