<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักต้มตุ๋นโลกคริปโตเปลี่ยนกลยุทธ์ ส่งจดหมายฟิชชิ่งถึงบ้าน หลอกขโมยเหรียญผู้ใช้ Ledger

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักต้มตุ๋นคริปโตได้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการส่งจดหมายปลอมทางไปรษณีย์ไปยังบ้านเหยื่อ โดยปลอมเป็นเอกสารสำคัญจากบริษัท Ledger ผู้ผลิต Hardware Wallet ชื่อดัง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้สแกนรหัส QR ที่อาจนำไปสู่การสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด

แก๊งต้มตุ๋นปรับเปลี่ยนเทคนิค ส่งจดหมายฟิชชิ่งถึงบ้าน

Mike Belshe CEO ของ BitGo เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับจดหมายปลอมดังกล่าว และไดแชร์ภาพจดหมายเพื่อเตือนภัยแก่วงการคริปโต จดหมายระบุว่าผู้ใช้จำเป็นต้อง “ตรวจสอบ” Wallet ของตัวเอง มิฉะนั้นอาจสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าถึงเงิน โดยมีรหัส QR แนบมาที่น่าจะเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ออกแบบมาเพื่อขโมย Private key

จดหมายเหล่านี้ถูกส่งผ่านบริการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ (USPS) สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการของนักต้มตุ๋น จากการโจมตีทางออนไลน์มาเป็นการหลอกลวงแแบบออฟไลน์ ซึ่งอาศัยความน่าเชื่อถือของการสื่อสารแบบดั้งเดิม

Troy Lindsey อีกหนึ่งคนที่ได้รับจดหมายปลอม ได้ทวีตเตือนบนโซเชียลมีเดียว่า “สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการหลอกลวง อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด”

แอปปลอม Ledger Live เล็งเป้าผู้ใช้ macOS

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Moonlock ได้เตือนเกี่ยวกับการโจมตีด้วยมัลแวร์ที่กำลังเล็งเป้าไปที่ผู้ใช้ macOS โดยใช้แอปปลอมที่เลียนแบบ Ledger Live ซึ่งเป็นแอปกระเป๋าคริปโตชื่อดัง

คนร้ายได้สร้างโคลนของ Ledger Live ที่มีโทรจันแฝงอยู่ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ใส่ Recovery phrase โดยทีม Moonlock ระบุว่า “ภายใน 1 ปี พวกเขาได้พัฒนาวิธีการขโมย Seed phrase และขโมยเงินใน Wallet ของเหยื่อ”

หนึ่งในเครื่องมือหลักที่ใช้คือ Atomic macOS Stealer ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน บันทึก และรายละเอียดของกระเป๋าคริปโต ทีมวิจัยพบว่ามัลแวร์นี้ถูกฝังอยู่ในเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็กกว่า 2,800 แห่ง

เมื่อติดตั้งแล้ว มัลแวร์จะแทนที่แอป Ledger Live ของแท้ด้วยแอปปลอมอย่างเงียบ ๆ และส่งการแจ้งเตือนปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ป้อน Recovery phrase 24 คำ ทันทีที่ผู้ใช้กรอกข้อมูลดังกล่าว มันจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายทันที

ผู้ใช้คริปโตควรระมัดระวังเป็นพิเศษกับการติดต่อทั้งทางออนไลน์และทางออฟไลน์ที่อ้างว่ามาจากผู้ให้บริการกระเป๋าคริปโต และไม่ควรแชร์ Recovery phrase กับใครเด็ดขาด

Source: Cryptonews