Alice Li หุ้นส่วนการลงทุนและหัวหน้าฝ่ายสหรัฐฯ ของบริษัทร่วมลงทุนคริปโต Foresight Ventures เผยว่า กฎหมายใหม่เกี่ยวกับ Stablecoin และท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะการสนับสนุน Bitcoin จากประธานาธิบดี Donald Trump อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคา Bitcoin ให้พุ่งทะลุ 150,000 ดอลลาร์ภายในรอบวัฏจักรนี้
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา Alice Li ได้กล่าวระหว่างงาน Cointelegraph Chain Reaction X Spaces ว่า หนึ่งในปัจจัยที่ทรงพลังที่สุดที่ผลักดันตลาด คือการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย โดยชี้ว่าท่าทีเชิงบวกต่อ Bitcoin และความชัดเจนในกฎระเบียบ Stablecoin ของสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นเชื้อเพลิงสำคัญของขาขึ้นในตลาดคริปโต
นอกจากนี้ เธอยังได้กล่าวเสริมว่า Stablecoin จะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าลงทุนระยะยาวมากที่สุด โดยมองว่าการออกกฎหมายในสหรัฐฯ อย่างร่าง Guiding and Establishing National Innovation for US Stablecoins หรือ GENIUS Act จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างมาตรฐานและความโปร่งใสในระบบ Stablecoin ทั้งด้านการวางหลักประกันและการปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน
ร่างกฎหมาย GENIUS Act ยังอาจเป็นต้นแบบให้กับหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย เช่น สิงคโปร์และฮ่องกง ที่อาจเดินหน้าตามสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว ล่าสุดฮ่องกงก็เพิ่งผ่านร่างกฎหมาย Stablecoin เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเปิดทางให้สถาบันการเงินสามารถขอใบอนุญาตออก Stablecoin จาก Hong Kong Monetary Authority ได้ภายในปี 2025
อีกหนึ่งตัวเร่งสำคัญที่เธอชี้ คือ การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงในปีนี้ จะเป็นแรงกระตุ้นที่ส่งผลต่อการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดคริปโตโดยตรง โดยข้อมูลจาก CME Group FedWatch Tool ระบุว่าตลาดให้โอกาสถึง 95% ที่ Fed จะยังคงดอกเบี้ยเท่าเดิมในการประชุมวันที่ 18 มิถุนายน

แม้ภาพรวมการลงทุนจาก VC ด้านคริปโตจะดูซบเซา โดยในเดือนพฤษภาคมมีดีลเกิดขึ้นเพียง 62 ดีล คิดเป็นมูลค่ารวม 909 ล้านดอลลาร์ แต่ก็มีการวิเคราะห์ว่าปรากฏการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับฤดูกาลและสภาพคล่องเฉพาะหน้าช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้แรงซื้อจาก VC ลดน้อยลงชั่วคราวเท่านั้น
ที่มา: Cointelegraph

