ราคา Bitcoin กลับมายืนเหนือ 110,000 ดอลลาร์อีกครั้งในเช้าวันพุธที่ผ่านมา หลังรายงานเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ตามข้อมูลจาก TradingView
โดยขณะนี้ Bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ราว 109,800 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ Nic Puckrin ผู้ก่อตั้ง Coin Bureau และนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง มองว่าราคา Bitcoin ยังมีโอกาสพุ่งต่อได้จากแรงบวกของอัตราเงินเฟ้อที่เย็นลง และความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของ Donald Trump ที่คลี่คลายลง
Trump ประกาศผ่าน Truth Social ว่าสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับจีน โดยอยู่ระหว่างการรออนุมัติอย่างเป็นทางการ เขาระบุว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 55% ขณะที่จีนจะเก็บเพียง 10%
“แม้ช่วงต้นปีจะมีความกลัวเงินเฟ้อ แต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว เงินเฟ้อยังอยู่ในการควบคุม และข้อมูล CPI ล่าสุดก็ยืนยันว่า สินทรัพย์เสี่ยงจะได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้”
รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเป็น 2.4% จาก 2.3% ในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% โดยก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายกังวลว่าแผนภาษีนำเข้าของ Trump จะกระทบราคาในระดับผู้บริโภค
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลกระทบของภาษีจะเริ่มเห็นในเดือนพฤษภาคม แต่ข้อมูล CPI กลับชี้ว่าระดับเงินเฟ้อยังต่ำอยู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะผลกระทบยังไม่ชัดเจน หรือจริง ๆ แล้วมีผลน้อยกว่าที่คิดไว้
“Trump ถอยแผนภาษีที่ทำให้ตลาดผวาไปก่อนหน้านี้แทบทั้งหมด และเมื่อมีการลงนามข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการ เราแทบจะกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง”
เขายังเสริมว่า ปัจจัยกดดันเงินเฟ้อต่อไป ได้แก่ สินค้าคงคลังของผู้ค้าปลีกที่ล้นตลาด และราคาบ้านที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดมีพื้นที่ลดดอกเบี้ย และจุดชนวนให้ Bitcoin พุ่งอีกระลอก
“ร้านค้าหลายแห่งกักตุนของไว้ล่วงหน้า ตอนนี้ต้องเร่งขายออกในราคาที่ต่ำลง ซึ่งจะช่วยกดเงินเฟ้อ … ในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งมีน้ำหนักในดัชนี CPI ประมาณ 1 ใน 3 นโยบายเนรเทศของ Trump จะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยลดลง ส่งผลให้ค่าเช่าและราคาบ้านปรับตัวลง”
สุดท้าย Puckrin เชื่อว่าแม้ผู้บริโภคจะยังระมัดระวัง แต่ภาพรวมเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นสัญญาณให้เฟดเริ่มลดดอกเบี้ย และเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของ Bitcoin ที่อาจพาเม็ดเงินจากรายย่อยกลับเข้าสู่ตลาดคริปโตอีกครั้ง
ด้านเฟดจะประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยในระดับเดิมไปจนถึงอย่างน้อยเดือนกันยายน ขณะที่ Trump เรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ยลงทันทีถึง 1%
ที่มา: Cryptobriefing