<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ปังไม่ไหว! สลัมที่ใหญ่ที่สุดในเคนยา เริ่มหันมาใช้ Bitcoin ในชีวิตประจำวันแบบจริงจัง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ใครจะไปคิดว่าใน “คิเบรา” สลัมที่ใหญ่ที่สุดของเคนยา ซึ่งบางคนบอกว่ามีคนอาศัยอยู่ตั้งแต่ 250,000 คน ไปจนถึงเกือบล้านคน กำลังมีผู้คนกลุ่มหนึ่งเริ่มหันมาใช้ Bitcoin ในชีวิตประจำวันแล้ว

โดยวันนี้มีชาวคิเบรากว่า 200 คน ที่ใช้ Bitcoin กันเป็นเรื่องปกติในชีวิต บางคนรับค่าแรงเป็น BTC บางคนใช้ซื้อของตามร้านค้าในชุมชน บางคนถึงขั้นเก็บไว้หวังราคาขึ้น  เพราะพวกเขาเริ่มเชื่อว่า Bitcoin อาจเป็น “ตั๋วเบิกทาง” ที่พาพวกเขาออกจากความจนได้

ทั้งหมดนี้ไม่ได้เริ่มจากนโยบายรัฐ ไม่ได้มาจากแบงก์ใหญ่ ไม่ได้เกิดจากการลิสต์เหรียญบนกระดานดัง แต่เกิดจากความพยายามของสตาร์ทอัพเล็ก ๆ ชื่อว่า AfriBit Africa ที่ตัดสินใจลงพื้นที่จริงนับตั้งแต่ปี 2022

ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น AfriBit ไม่ได้มาแค่มาแจกเหรียญเล่น ๆ แต่เริ่มจากของจริง นั่นคือ การให้เงินช่วยเหลือกับคนเก็บขยะในชุมชน โดยจ่ายเป็น Bitcoin แทนเงินสด ฟังดูเหมือนเล็กน้อย แต่มันเปลี่ยนชีวิตคนกลุ่มหนึ่งไปเลย เพราะหนึ่งคือพวกเขาไม่ต้องพกเงินสดให้เสี่ยงโดนปล้น (ซึ่งในคิเบราเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก) สอง ค่าธรรมเนียมการใช้ Bitcoin ยังถูกกว่าค่าถอนเงินจากตู้ ATM เสียอีก

หลังจากนั้นไม่กี่เดือน แม่ค้าผัก คนขายของชำ และผู้ประกอบการเล็ก ๆ ในชุมชนก็ค่อย ๆ ตามเข้ามา เพราะเห็นว่ามันใช้ได้จริง แล้วก็เริ่มอยากลอง

ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย จนกระทั่งมีนักข่าวลงพื้นที่จริง และพบว่า คนส่วนใหญ่ที่ใช้ Bitcoin กลับไม่ได้ใช้มัน “ในชีวิตประจำวัน” อย่างที่คิด ซึ่งหลายคนไม่ได้เอา BTC ไปซื้อของเลยด้วยซ้ำ แต่เลือกจะถือไว้ เพราะเชื่อว่าราคามันจะขึ้นต่อ และที่ชวนตกใจกว่าคือ บางคนเอาเงินเกือบ 70-80% ของทรัพย์สินทั้งหมดไปใส่ใน Bitcoin แบบไม่เหลือเงินไว้สำรอง และหากราคา Bitcoin ร่วงลง ก็อาจกระทบต่อความมั่นคงของคนยากจนเหล่านี้อย่างรุนแรง

ด้วยเหตุนี้จึงต้องมี “สตาร์ทอัพมากกว่าหนึ่งแห่ง” ที่ลงมือจริงจัง หากเราต้องการเห็นการนำ Bitcoin เข้าสู่เคนยาอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้เงินช่วยเหลือจาก AfriBit จะสร้างแรงกระเพื่อมในระดับชุมชนได้จริง ด้วยมูลค่ากว่า 10,000 ดอลลาร์ที่ถูกส่งตรงถึงมือคนทำงานตัวเล็ก ๆ ในรูปแบบของ Bitcoin แต่มันก็เป็นเพียง “แรงผลักดันระลอกแรก” เท่านั้น

หากวันหนึ่งเงินช่วยเหลือนี้หยุดลง ชุมชนที่เพิ่งเริ่มก่อตัวก็อาจค่อย ๆ หายไปกับคลื่นเศรษฐกิจที่ใหญ่เกินกว่าจะต้านไหว เพราะความยั่งยืนในโลกของคริปโต ไม่ได้เกิดจากการแจกเหรียญเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากความเข้าใจ การใช้งานจริง และโครงสร้างสนับสนุนที่มั่นคง

แต่อย่างน้อย สิ่งที่เกิดขึ้นในคิเบราก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า มันเป็นไปได้จริงที่คนไร้บัญชีธนาคาร จะเริ่มเข้าถึงบริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ โดยไม่ต้องง้อระบบธนาคารแบบเก่าที่เลือกให้บริการเฉพาะกับคนที่มี “คุณสมบัติ” ตรงเกณฑ์เท่านั้น

และบางที หากมีสตาร์ทอัพอีกหลายแห่งที่กล้าก้าวลงมาเดินบนเส้นทางนี้ร่วมกัน ต่อให้ไม่มีแบงก์ไหนมองเห็น ต่อให้โลกยังไม่สนใจ เสียงเล็ก ๆ จากชุมชนอย่างคิเบรา ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตได้จริง ๆ

ที่มา : beincrypto